Assam-Tea-Web-Banner-L
PunthaixSingha-Matcha-Web-Banner-L
PunthaixSingha-Matcha-Web-Banner-L
เริ่มวันใหม่กับกาแฟแก้วโปรดที่พันธุ์ไทย
Coffee1
กาแฟพันธุ์ไทย เข้ม เท่ จริงใจแบบไทยแท้ๆ
03_Banner_Video
00
/
00
เปิดโอกาสทางธุรกิจกับเรา
ก้าวแห่งโอกาสทางธุรกิจเพื่อเติบโตอย่างเข้มแข็งไปด้วยกันมาร่วมสร้างและขยายธุรกิจของคุณไปกับเรา
เมนูพันธุ์ไทย
กว่า 10 ปี ที่พันธุ์ไทยตั้งใจดูแลป่าพัฒนาชุมชน และส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่น
Cover_Video_sustainable
9 Sounds from 9 Forests by PUNTHAI COFFEE
🍃 พันธุ์ไทยอยากชวนทุกคนมาผ่อนคลายไปกับเสียงของผืนป่ายอดดอยทั้ง 9 แห่งอันอุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่ปลูกกาแฟจริงที่พันธุ์ไทยดึงเอาเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาสร้างสรรค์เป็น 9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย ดื่มด่ำรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมๆ พร้อมฟังเสียงของธรรมชาติในรูปแบบ ASMR ไปพร้อมๆ กัน เพื่อประสบการณ์ดริปกาแฟที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน   🎵 Spotify Playlist: คลิกเพื่อฟัง   เพราะทุกขั้นตอนที่ปลูก ทุกเมล็ดที่ถูกบ่มเพาะด้วยความรักธรรมชาติ คือแรงบันดาลใจที่พันธุ์ไทย จับมือกับ 9 นักสร้างสรรค์กาแฟชื่อดัง เพื่อส่งมอบ 9 เมล็ดกาแฟดริปคอลเลกชันพิเศษที่ดีต่อใจและดีต่อโลกให้กับทุกคน   9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย พรีเมียมเซต บรรจุกาแฟดริป 9 ซอง จาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟ พร้อมกาดริปและแก้วกาแฟ ราคา 1,899 บาท หรือแบบกล่องเล็ก บรรจุกาแฟดริป 9 ซอง ราคา 325 บาท ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 - 31 มกราคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ   #9Soundsfrom9Forests #กาแฟดริปพันธุ์ไทย #PUNTHAI #PUNTHAIDRIPCOFFEE
อ่านต่อ
Dark Roast Wallpapers by PUNTHAI
นี่คือการ Save ป่า... ที่ไม่ได้ชวนให้คุณออกไปปลูกป่า แต่อยากชวนให้คุณกด Save เพราะนี่คือ ‘Dark Roast Wallpapers’ by PUNTHAI วอลเปเปอร์มือถือ ที่ตั้งใจออกแบบมาให้ ‘สีมืดกว่าปกติ’ เหมือนกับ สีกาแฟดริปสไตล์พันธุ์ไทย เพราะ ‘วอลเปเปอร์สีมืด’ จะใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยกว่าภาพที่สว่าง แม้นี่จะเป็นแค่พลังงานเพียงเล็กน้อย แต่หากช่วยกัน Save ไปใช้ หลายๆ คนหลายๆ เครื่อง คุณก็เป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของโลกนี้ได้ ‘โหลดตอนนี้ ช่วยโลกตอนนี้’   - สำหรับ wallpaper สำหรับ Mobile  คลิก - สำหรับ wallpaper สำหรับ Desktop คลิก ‘โฆษณา วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ที่ช่วย Save โลกได้ง่ายที่สุด จากพันธุ์ไทย’ #DARKROASTWALLPAPERSBYPUNTHAI #กาแฟดริปพันธุ์ไทย #PUNTHAI #PUNTHAIDRIPCOFFEE
อ่านต่อ
ชาติชาย คะบู่
คุณชาติชาย คะบู่ เป็นเกษตรกรจากโครงการหมู่บ้านยามชายแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านดอยผักกูด ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไร่กาแฟของคุณชาติชายเป็นไร่กาแฟที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งปลูกกาแฟอีกหนึ่งแหล่งที่เข้าถึงยาก เพราะอยู่ติดชายแดน แต่กาแฟที่มาจากที่นี่มีรสชาติที่สะอาดและเป็นเอกลักษณ์มาก เนื่องจากสวนกาแฟของคุณชาติชาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำของจังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณที่ราบระหว่างหุบเขาของฝั่งลำห้วย ที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร ทำให้สภาพอากาศโดยรวมมีความชื้นสูง ส่วนฤดูร้อนก็จะเป็นช่วงสั้นๆไม่ร้อนจัด ดังนั้นอากาศที่นี่จึงเย็นตลอดทั้งปี สวนของคุณชาติชายมีพื้นที่ปลูกกาแฟโดยรวมประมาณ 30 – 40 ไร่ โดยมีสวนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ประมาณ 16 ไร่ ซึ่งใน 16 ไร่นี้ มีกาแฟอยู่ประมาณ 5,000 ต้น ทั้งสายพันธุ์ Typica (สีเหลืองและแดง) , Catura และ Bourbon (สีเหลืองและแดง) นอกจากนี้ ยังมีการปลูกไม้ร่มเงาอีกด้วย เนื่องจากบริเวณพื้นที่ปลูก มีนโยบายว่าต้องรักษาป่าต้นน้ำ ทางหน่วยงานราชการจึงส่งเสริมให้ชาวบ้านและเกษตรกรปลูกกาแฟใต้ร่มเงาไม้ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังเข้ามาส่งเสริมให้ปลูกอโวคาโดและแมคคาเดเมีย ที่เป็นพื้นเศรษฐกิจอีกด้วย ดังนั้น ภายในสวนกาแฟของลุงชาติชาย จึงเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่สามารถให้ร่มเงาแก่ต้นกาแฟได้เป็นอย่างดี นับเป็นพื้นที่ปลูกที่เอื้อต่อคุณภาพของกาแฟเป็นอย่างยิ่ง   คุณชาติชายศึกษาในเรื่องการปลูกกาแฟและการแปรรูปจากหน่วยงานต่างๆ ก่อนจะจดทะเบียนและสร้างแบรนด์ “กาแฟบ้านดอยผักกูด” ขึ้นมา เมื่อได้ยินข่าวเรื่องการจัดการประกวดสุดยอดกาแฟไทยประจำปี 2564 (Thai Coffee Excellence 2021) จึงส่งกาแฟเข้าประกวดในรายการนี้เป็นครั้งแรก และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง โดยกาแฟที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนั้น เป็นกาแฟที่ถูกเก็บในช่วง full moon หรือในช่วงเดือนมีนาคม ตามความเชื่อโบราณที่ว่า ถ้าเก็บผลผลิต ให้เก็บในช่วงเดือน 3 กับเดือน 5 ซึ่งเป็นช่วงที่รสชาติของกาแฟจะดีที่สุด และนอกจากการเก็บกาแฟในช่วงเดือน 3 ตามความเชื่อแล้ว ในด้านการแปรรูป คุณชาติชายเองก็มีความพิถีพิถันอย่างมาก เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยไม่มองข้ามแม้สิ่งเล็กๆน้อยๆเลยแม้แต่นิดเดียว และแม้ว่าหลังจากที่กาแฟของคุณชาติชายได้รับรางวัลแล้ว ลุงชาติชายก็ยังคงมุ่งมั่น และพยายามส่งกาแฟของตัวเองเข้าประกวดอยู่บ่อยครั้ง และแต่ละครั้งก็มักจะได้รับรางวัลในอันดับต้นๆ รวมถึง cupping score ที่ไม่เคยต่ำกว่า 85 คะแนน ซึ่งคุณชาติชายก็ได้นำกาแฟที่ได้รับรางวัลจากการประกวดไปพัฒนาต่อยอดและพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะลุงชาติชายเชื่อว่า แม้จะได้เปรียบเรื่องพื้นที่ปลูกที่มีความเหมาะสมและอุดมสมบูรณ์ แต่หากขาดความใส่ใจและความพยายาม ก็คงไม่มีทางที่กาแฟดีๆจะเปล่งประกายขึ้นมาได้ ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไมกาแฟดอยผักกูด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งกาแฟคุณภาพสูง ที่คอกาแฟทั่วประเทศต่างต้องการลิ้มลองให้ได้สักครั้ง สมกับนิยามที่คุณชาติชายมอบให้กับกาแฟของเขาว่า “กาแฟช้างเผือก” นั้นเอง   จุดเด่นของกาแฟ:  เป็นกาแฟออแกนิคที่ปลูกใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และใช้ปุ๋ยพืชสดจากธรรมชาติในไร่กาแฟ มูลสัตว์ เช่นกระบือ‚ ไก่‚ แกะ หรือเปลือกกาแฟขี้เถ้าหมักแล้ว รวมถึงปุ๋ยขี้ค้างคาวเป็นเม็ดตราค้างคาวในการปลูก   Tasting Note กาแฟดริปพันธุ์ไทย: Complex Floral, Plum, Rum Raisin, Berry Fruit, Brown Sugar, Sweet & Long  Aftertaste Process: Honey Full Moon Process
อ่านต่อ
เปา เลอตอโกลด์
แสนชัย จูเปาะ เจ้าของไร่กาแฟ “Saen Chai Estate” ที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเจ็ดหน่วย ต.วัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ คุณแสนชัยเป็นเกษตรกรไทยที่เน้นการแปรรูปกาแฟในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ได้กาแฟพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นไร่ที่ได้รับรางวัลมากมาย การปลูกกาแฟของที่นี่ จะเน้นการปลูกกาแฟให้อยู่กับป่าธรรมชาติ ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ และไม่ใช้สารเคมี ไม่เร่งรีบให้ผลออกมาจำนวนมาก เพื่อให้ได้ผลกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด และด้วยความพร้อมทั้งสภาพอากาศ ระดับความสูงและพื้นที่ปลูกที่เป็นพื้นที่ราบสูง รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องของอากาศที่ค่อนข้างที่จะเย็น เนื่องจากเป็นผืนป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงทำให้กาแฟของ “Saen Chai Estate” กลายเป็นหนึ่งในกาแฟที่ดีที่สุดที่คอกาแฟต่างก็ต้องการที่จะลิ้มลองให้ได้สักครั้ง และในอนาคต คุณแสนชัยก็มีแผนที่จะพัฒนาสายพันธุ์กาแฟให้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่ในเรื่องของการเพาะเมล็ด การปลูก พื้นที่ปลูกให้ปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพเข้ามาช่วย และพัฒนาเรื่องการ Process ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ   โดยจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการกาแฟของคุณแสนชัย เริ่มมาจากการที่เขาได้มาที่บ้านหนองเจ็ดหน่วย ที่เป็นหมู่บ้านของภรรยา และได้เห็นสภาพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 1,100 -1,300 เมตร และเป็นป่าสนเสียส่วนใหญ่ จึงลองทดลองปลูกกาแฟ โดยเริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลกับชาวบ้านกับผู้มีความรู้ของที่นั่น ไม่ว่าจะเป็น พะตี ทองดี และอีกหลายๆ คน จึงได้รู้ว่ากาแฟของพื้นที่นี่มีความพิเศษในเรื่องของสายพันธุ์ เพราะเมื่อ 54 ปีที่แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 ที่มิชชันนารี ได้นำต้นกล้ากาแฟมาปลูกไว้ที่นี่นั้นเอง   “ต้นกาแฟเหล่านั้นอยู่ในหมู่บ้าน โดยปีที่ผ่านมาจึงนำไปทดลองว่ากาแฟเหล่านี้ดีจริงไหม รสชาติมัน โอเคหรือเปล่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ปรากฏว่ามันมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน จึงคิดว่าจะนำส่วนนี้ไปขยายต่อไป เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านก็ปลูกแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมหรือได้รับการต่อยอดจึงทำให้กาแฟที่นี่หายไป”   แสนชัยให้ความสำคัญกับลูกสวนของตัวเอง และต้องการให้ลูกสวนทุกคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนการปลูกกาแฟจากสารเคมีเป็นอินทรีย์ วิธีการดูแลต้นกาแฟ และเมื่อแสนชัยแสดงให้เห็น ลูกสวนทุกคนก็จะเห็นคุณค่าของการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพ   “ผมว่ากาแฟสามารถเล่าเรื่องในตัวของมันเองได้ เมื่อไปถึงที่ไหนก็ตามมันก็จะบอกถึงวิถีชีวิตที่มันเกิดมา ตัวตนของมันจะบอกเองจากรสชาติของมันบอกไปถึงการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ปลูกใต้ร่มเงาไม้ ไม่รีบเร่งให้ผลออกมาจำนวนมาก แล้วก็บอกถึงการพึ่งพาอาศัยตัวของมันเอง รวมถึงสภาพอากาศบริสุทธิ์ของที่นี่ ตอนแรกเริ่มพวกเขาก็ไม่เคยมั่นใจกับการปลูกกาแฟเลย ไม่เคยคิดว่ามันจะทำให้พวกเขาอยู่ได้ แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มเห็นรายได้ หลายครอบครัวก็เริ่มที่จะหันมาปลูกกาแฟกับเรา ปัญหาก็จะมีอยู่กับเรื่องความรู้ ความเชี่ยวชาญเท่าไหร่ คือจริงๆ เขาก็เคยปลูก แต่มันไปถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เคยทำแล้วผิดหวัง ต่างจากหมู่บ้านที่ไม่เคยปลูกกาแฟพวกเขามีความคิดอยากริลองมากกว่าซึ่งตอนนี้ก็กลับมาฟื้นตื่นขึ้นอีกครั้ง”   จุดเด่นของกาแฟ: เป็นกาแฟต้นนํ้า ช่วยรักษาป่าต้นนํ้า และถูกปลูกขึ้นใต้ ต้นไม้ ให้กลิ่น Fruity floral คล้ายผลไม้สีเหลือง กล้วยตาก พรุนอบแห้ง    Tasting Note: Floral, Cacao Nibs, Chocolate, Plum, Prune, Thick & Smooth Mouthfeel  Process: Natural
อ่านต่อ
แสนชัย จูเปาะ
แสนชัย จูเปาะ เจ้าของไร่กาแฟ “Saen Chai Estate” ที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเจ็ดหน่วย ต.วัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ คุณแสนชัยเป็นเกษตรกรไทยที่เน้นการแปรรูปกาแฟในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ได้กาแฟพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นไร่ที่ได้รับรางวัลมากมาย การปลูกกาแฟของที่นี่ จะเน้นการปลูกกาแฟให้อยู่กับป่าธรรมชาติ ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ และไม่ใช้สารเคมี ไม่เร่งรีบให้ผลออกมาจำนวนมาก เพื่อให้ได้ผลกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด และด้วยความพร้อมทั้งสภาพอากาศ ระดับความสูงและพื้นที่ปลูกที่เป็นพื้นที่ราบสูง รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องของอากาศที่ค่อนข้างที่จะเย็น เนื่องจากเป็นผืนป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงทำให้กาแฟของ “Saen Chai Estate” กลายเป็นหนึ่งในกาแฟที่ดีที่สุดที่คอกาแฟต่างก็ต้องการที่จะลิ้มลองให้ได้สักครั้ง และในอนาคต คุณแสนชัยก็มีแผนที่จะพัฒนาสายพันธุ์กาแฟให้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่ในเรื่องของการเพาะเมล็ด การปลูก พื้นที่ปลูกให้ปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพเข้ามาช่วย และพัฒนาเรื่องการ Process ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ   โดยจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการกาแฟของคุณแสนชัย เริ่มมาจากการที่เขาได้มาที่บ้านหนองเจ็ดหน่วย ที่เป็นหมู่บ้านของภรรยา และได้เห็นสภาพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 1,100 -1,300 เมตร และเป็นป่าสนเสียส่วนใหญ่ จึงลองทดลองปลูกกาแฟ โดยเริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลกับชาวบ้านกับผู้มีความรู้ของที่นั่น ไม่ว่าจะเป็น พะตี ทองดี และอีกหลายๆ คน จึงได้รู้ว่ากาแฟของพื้นที่นี่มีความพิเศษในเรื่องของสายพันธุ์ เพราะเมื่อ 54 ปีที่แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 ที่มิชชันนารี ได้นำต้นกล้ากาแฟมาปลูกไว้ที่นี่นั้นเอง   “ต้นกาแฟเหล่านั้นอยู่ในหมู่บ้าน โดยปีที่ผ่านมาจึงนำไปทดลองว่ากาแฟเหล่านี้ดีจริงไหม รสชาติมัน โอเคหรือเปล่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ปรากฏว่ามันมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน จึงคิดว่าจะนำส่วนนี้ไปขยายต่อไป เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านก็ปลูกแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมหรือได้รับการต่อยอดจึงทำให้กาแฟที่นี่หายไป”   แสนชัยให้ความสำคัญกับลูกสวนของตัวเอง และต้องการให้ลูกสวนทุกคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนการปลูกกาแฟจากสารเคมีเป็นอินทรีย์ วิธีการดูแลต้นกาแฟ และเมื่อแสนชัยแสดงให้เห็น ลูกสวนทุกคนก็จะเห็นคุณค่าของการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพ   “ผมว่ากาแฟสามารถเล่าเรื่องในตัวของมันเองได้ เมื่อไปถึงที่ไหนก็ตามมันก็จะบอกถึงวิถีชีวิตที่มันเกิดมา ตัวตนของมันจะบอกเองจากรสชาติของมันบอกไปถึงการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ปลูกใต้ร่มเงาไม้ ไม่รีบเร่งให้ผลออกมาจำนวนมาก แล้วก็บอกถึงการพึ่งพาอาศัยตัวของมันเอง รวมถึงสภาพอากาศบริสุทธิ์ของที่นี่ ตอนแรกเริ่มพวกเขาก็ไม่เคยมั่นใจกับการปลูกกาแฟเลย ไม่เคยคิดว่ามันจะทำให้พวกเขาอยู่ได้ แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มเห็นรายได้ หลายครอบครัวก็เริ่มที่จะหันมาปลูกกาแฟกับเรา ปัญหาก็จะมีอยู่กับเรื่องความรู้ ความเชี่ยวชาญเท่าไหร่ คือจริงๆ เขาก็เคยปลูก แต่มันไปถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เคยทำแล้วผิดหวัง ต่างจากหมู่บ้านที่ไม่เคยปลูกกาแฟพวกเขามีความคิดอยากริลองมากกว่าซึ่งตอนนี้ก็กลับมาฟื้นตื่นขึ้นอีกครั้ง”   จุดเด่นของกาแฟ:  เป็นกาแฟสายพันธุ์เก่าแก่ที่มิชชันนารีนำเข้ามาปลูกตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว เป็นสายพันธุ์ที่ดีคือ อาราบิกาแท้และปลูกผ่านกรรมวิธีแบบออแกนิค   Tasting Note กาแฟดริปพันธุ์ไทย: Plum, Prune, Apple, Red Grape, Juicy, Bright Acidity Process: Honey Process
อ่านต่อ
ดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วนได้จริงไหม?
ดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วนได้จริงไหม?   ดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน ถือเป็นเรื่องราวที่ได้ยินผ่านหูกันมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น กินกาแฟดํา ลดความอ้วนได้ง่ายขึ้นเพราะมีประโยชน์ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี ยิ่งถ้าหากกินกาแฟดําตอนเช้า ลดความอ้วนเบิร์นไขมันตั้งแต่เช้าไปเลยยิ่งปัง! มีสูตรการดื่มกาแฟเพื่อควบคุมน้ำหนักโผล่เข้ามามากมาย ว่าแต่.. มันเชื่อถือได้จริงหรือเปล่า เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงความเข้าใจผิดๆ มาหาคำตอบไปด้วยกันในบทความนี้เลย     ดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน เป็นเรื่องจริงหรือความเชื่อที่ผิด?   อันดับแรก กาแฟเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ เป็นเรื่องจริง!!   มีรายงานการวิจัยชี้ว่าการกินกาแฟดํา ลดความอ้วนได้ทั้งทางตรง และทางอ้อมด้วยกันหลายวิธี ยกตัวอย่างสารสำคัญตัวดังอย่าง “คาเฟอีน” ซึ่งช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญไขมันในร่างกายมากขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ หลังจากดื่มเข้าไปภายใน 5 นาที มันจึงมีผลต่อกระบวนการลดน้ำหนักได้โดยตรง ภาพรวมคือร่างกายจะลดไขมันได้เร็วขึ้น   และด้วยความที่คาเฟอีนส่งผลให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว มีพลังงานทำกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เมื่อมีการทำกิจกรรมก็เกิดการใช้พลังงาน เมื่อพลังงานถูกนำไปใช้ก็ไม่เกิดการสะสมพลังงานในรูปไขมันตามส่วนไม่พึงประสงค์ของร่างกาย จึงช่วยให้ร่างกายมีรูปร่างสมส่วนมากกว่าเดิม และในกรณีที่เป็นสายเฮลท์ตี้ชอบออกกำลังกาย มันสามารถเพิ่มพลังทำให้รู้สึกมีแรงในการออกกำลังกายมากขึ้น ควบคุมกล้ามเนื้อ อวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายรูปแบบ คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง หรือแม้แต่กระทั่งในการแข่งขันกีฬา   สำหรับคำถาม “ดื่มกาแฟตอนไหนช่วยลดความอ้วนได้” ทำไมต้องเน้นดื่มช่วงเช้าเป็นหลัก? อย่างที่ทุกคนรู้กันดี การดื่มกาแฟมากๆ ในช่วงเย็นอาจทำให้นอนไม่หลับตอนกลางคืน เพราะคาเฟอีนจะออกฤทธิ์ภายในร่างกายเฉลี่ยแล้ว 6 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนมาดื่มกาแฟในช่วงเช้าเพื่อให้คาเฟอีนเข้าไปทำงานกับระบบประสาทส่วนกลาง จนร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานในการทำกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นระหว่างวัน แล้วถูกขับออกไปก่อนจะถึงเวลาเข้านอน จึงเป็นที่มาของการแนะนำให้ดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่าช่วงเวลาอื่น   สรุปได้ว่า กาแฟมีส่วนช่วยในการลดความอ้วน เป็นเรื่องจริง แต่อย่าลืมว่าการดื่มกาแฟเป็นเพียงตัวเสริมช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย หากไม่ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ก็ไม่อาจทำให้ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักประสบความสำเร็จได้นะ     สารสำคัญในกาแฟที่ช่วยลดความอ้วน     ภายในกาแฟยังมีสารสำคัญอื่นๆ มากกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังมีหลายชนิดที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการสลายไขมันในร่างกายอีกมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างออกกำลังกายใช้พลังงาน หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่พักผ่อนอยู่เฉยๆก็ตาม มาดูกันถ้าหากดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน จะได้รับประโยชน์ด้านไหนบ้าง เลื่อนไปอ่านต่อกัน   - คาเฟอีน: เป็นสารที่พบได้เยอะในกาแฟ มีความสามารถในการกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น - กรดคลอโรจีนิค: สารนี้ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ช่วยให้ร่างกายมีการดูดซึมไขมันลดลง ส่งผลดีต่อการลดน้ำหนัก - แอนติออกซิแดนท์: หรือสารต้านอนุมูลอิสระ มีอยู่ในกาแฟเป็นปริมาณมาก สารนี้ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางอย่าง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญต่อการควบคุมน้ำหนัก     แจกสูตร กินกาแฟยังไงให้ผอม ที่ปังที่สุด!   ในเมื่อทุกคนเข้าใจแล้วว่า สารต่างๆในกาแฟเป็นตัวเสริมการเผาผลาญรวมถึงเพิ่มพลังงาน ถ้าอย่างนั้นมาดูเคล็ดลับที่พันธุ์ไทยเตรียมมาให้เพิ่มอีกนิดว่ากาแฟกินแล้วผอมต้องกินยังไง ช่วงเวลาไหน ถึงจะเลิศที่สุด มาดูกันเลย!   1. กินกาแฟดํา ลดความอ้วน   อาจจะทำร้ายจิตใจไปหน่อยสำหรับสายบางคน แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักแนะนำให้ดื่มกาแฟดำ ไม่เพิ่มน้ำตาล หรือครีมเทียม ช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคได้ อาจจะเลือก อเมริกาโนเย็น เป็นเมนูเครื่องดื่มที่ดีในการควบคุมน้ำหนักเลย ในช่วงแรกถ้ายังตัดใจไม่เติมน้ำตาลไม่ได้ แนะนำให้สั่งหวานน้อยแทนก็ถือว่าดีขึ้นนะ   สำหรับเมนูกาแฟอื่นอาจเปลี่ยนจากการเติมครีมเทียมเป็นนมรสจืด หรือผสมกับน้ำผลไม้ เช่น จี๊ดกาแฟเย็น ของพันธุ์ไทย เป็นเมนูกาแฟดำผสมส้มมะปี๊ด เพิ่มรสชาติความสดชื่น หวานอมเปรี้ยวจากธรรมชาติ เพื่อลดน้ำตาลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้   ย้ำอีกครั้ง กินกาแฟดํา ลดความอ้วน จะได้ประโยชน์มากที่สุดนะทุกคน   2. ดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน   กาแฟลดความอ้วนกินตอนไหน ก็ต้องบอกเลยว่า ตอนเช้าก่อน 12.00 น. หรือไม่เกิน 14.00 น. เป็นเวลาที่เหมาะสม จะได้มีช่วงเผาผลาญไขมัน และขับคาเฟอีนไม่ให้มีผลข้างเคียงนอนไม่หลับตอนกลางคืน นอกจากนี้การกินกาแฟดําตอนเช้า ลดความอ้วนอาจช่วยลดระดับความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก ซึ่งอาจช่วยลดความอยากอาหารในแต่ละมื้อได้ในบางกรณี   3. ดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย   เคล็ดลับสุดท้ายของสูตรกินกาแฟยังไงให้ผอม คือ ดื่มกาแฟให้ได้รับปริมาณคาเฟอีนถึง 100-200 mg เทียบเท่ากับการดื่ม เอสเพรสโซ่ 2 ช็อต ก่อนออกกำลังกาย เนื่องจากเป็นปริมาณที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานและไขมันที่กักเก็บในร่างกาย และช่วยทำให้เก็บกลูโคสไว้ในกล้ามเนื้อได้นานขึ้น ซึ่งทำให้ชะลอความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายได้ สิ่งที่ตามมาคือ มีแรงในออกกำลังกายต่อเนื่องได้ยาวนานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าหากกินกาแฟดํา ลดความอ้วนและตามด้วยการออกกำลังกายตั้งแต่เช้า จะรู้สึกสดชื่น มีพลังสุด ๆ   Tips การเทียบปริมาณคาเฟอีนเพิ่มเติม: กาแฟ 1 ช้อนชา มีปริมาณคาเฟอีน 30 mg | เอสเพรสโซ่ 1 ช็อต มีปริมาณคาเฟอีน 60 mg     การดื่มกาแฟกับอาหารอื่นๆ ในแต่ละมื้อ     เคล็ดลับในการเลือกเครื่องดื่มกาแฟที่เหมาะสม และไม่เพิ่มพูนพลังงานส่วนเกิน โดยปกติแนะนำให้ดื่มกาแฟในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ดังนั้นขอแนะนำวิธีดื่มกาแฟโดยจับคู่กับอาหารที่มีประโยชน์ สำหรับช่วงเช้าของวัน และระหว่างวัน ดังนี้   เมนูอาหารคู่กับการดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน   กินกาแฟดํา ลดความอ้วนโดยไม่ใส่ครีมเทียมหรือน้ำตาล ไปกับการทานอาหารเช้าที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างพลังงานที่ดีตลอดทั้งวัน เช่น ไข่ต้ม, ข้าวโอ๊ต, ผลไม้ หรือขนมปังโฮลวีต   มื้อกลางวันกับกาแฟดีๆ และอาหารสุขภาพ   หลังจากดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน ถัดมามื้อต่อไป คือ ดื่มกาแฟเมนูโปรดไปกับอาหารที่มีโปรตีนสูงในมื้อกลางวัน เช่น เนื้อไก่, เนื้อวัว, เนื้อปลา, อาหารทะเล หรืออาหารมังสวิรัติ เพื่อเสริมความอิ่มท้อง ลดความอยากอาหาร เผลอทานจุกจิกในช่วงระหว่างวัน   จิบกาแฟยามบ่ายพร้อมของว่างเบาๆ   สำหรับคนที่อยากทานอะไรเพิ่มเติมระหว่างมื้อ จะเลือกดื่มกาแฟและรับประทานผลไม้, น้ำผลไม้, หรือโยเกิร์ตเสริมไปพร้อมกันก็เป็นตัวเลือกที่ดี ไหนๆก็จะกินแล้วก็เลือกกินอะไรที่เป็นประโยชน์ย่อมดีต่อสุขภาพมากกว่า   จากประโยชน์ของการดื่มกาแฟตอนเช้า ลดความอ้วน ทั้งหมดคงช่วยให้ทุกคนเข้าใจที่มาที่ไป และรู้วิธีประยุกต์ใช้กับพฤติกรรมควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากเรื่องลดความอ้วนกาแฟยังให้ผลดีอื่นๆ ทั้งรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า และมีสมาธิ แถมหลายๆเมนูยังอร่อยเข้มข้นดื่มแล้วใจฟูสุดๆ   อย่างไรก็ตาม อย่าคิดว่ากาแฟกินแล้วผอมโดยไม่โฟกัสเรื่องอื่นเลย ควรใส่ใจกับการทานอาหาร เพิ่มการออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้เพิ่มการเผาผลาญ และช่วยให้มีสุขภาพดีอีกด้วย หวังว่าทุกคนจะมีความสุขไปกับการดื่มกาแฟแก้วโปรดพร้อมๆไปกับการดูแลตัวเองอย่างดีในทุกด้านนะ   ลองเลือกดูเมนูกาแฟพันธุ์ไทยที่โดนใจได้ที่นี่เลย: เมนูกาแฟพันธุ์ไทย หรือเลือกสั่งเครื่องดื่มแก้วโปรดได้ที่แอปเดลิเวอรี่ชั้นนำ   อ้างอิง: - https://www.youtube.com/watch?v=foLf5Bi9qXs&ab_channel=TED-Ed - https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/service-knowledge-article-info-old.php?id=491 - https://www.medparkhospital.com/lifestyles/caffeine#:~:text=%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%99%20(Caffeine)-,%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%99%20(Caffeine)%20%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1,%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%20%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%20%E0%B8%A5%E0%B8%94
อ่านต่อ
กาแฟบำรุงสมองได้ มารู้จักประโยชน์ของกาแฟกับการทำงานของสมองกัน
กาแฟบำรุงสมองได้ มารู้จักประโยชน์ของกาแฟกับการทำงานของสมองกัน   เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องเริ่มต้นยามเช้าด้วย “กาแฟบำรุงสมอง” สักแก้วเพื่อกระตุ้นความสดชื่นให้หัวแล่นอย่างแน่นอน หรือแม้แต่จิบตอนบ่ายเพื่อต่อสู้กับความง่วงระหว่างวัน อาจจะซัดตอนกลางคืนเพื่อทำงานที่ค้างคาบ้างในบางครั้ง   ด้วยประโยชน์ของกาแฟที่มีสารคาเฟอีนจะช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า ต้องยอมรับเลยว่าเมื่อถึงวัยทำงาน กาแฟได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทางกลับกันหลายๆคนก็อาจมองว่าควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน เพราะคิดว่าจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกาย หรือกังวลว่าจะก่อให้เกิดโรคอันตรายในอนาคต   แล้วความจริงเป็นอย่างไร? สรุปว่ากาแฟเป็นฮีโร่หรือตัวร้ายกันแน่? ประโยชน์ของกาแฟที่ได้ยินกันมาใช่ข้อมูลที่ถูกต้องหรือเปล่า? มาไขข้อสงสัยไปพร้อมๆกันในบทความนี้เลย     กาแฟบำรุงสมอง ได้อย่างไร?   มาทำความรู้จักการทำงานของคาเฟอีนต่อสมองกันก่อน ว่าทำไมกาแฟบำรุงสมองได้ อย่างที่รู้กันว่าสาเหตุที่กาแฟนั้นช่วยให้เราตื่นตัวก็เพราะว่าในกาแฟมีสารคาเฟอีน ซึ่งมีคุณสมบัติออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วงกลางของสมองโดยตรง เช่น ต้านสารแอดิโนซิน (Adenosine) หรือสารที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนในสมองนั่นเอง เป็นเหตุให้คนที่ดื่มกาแฟ หรือรับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายจึงไม่รู้สึกง่วง และรู้สึกกระฉับกระเฉง ถึงแม้จะไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ตาม   พูดง่ายๆก็คือ คาเฟอีนในกาแฟ สรรพคุณนั้นช่วยหลอกสมองของเราให้เชื่อว่าตัวเองไม่เหนื่อย   อีกทัั้งคาเฟอีนยังกระตุ้นสารแห่งความสุข หรือ โดปามีน (Dopamine) ให้ทำงานได้ดีมากขึ้น พวกเราจึงมักรู้สึกสดชื่นอารมณ์ดี กระชุ่มกระชวย และผ่อนคลายเมื่อดื่มกาแฟเข้าไปนั่นเอง โดยฤทธิ์ของคาเฟอีนจะอยู่ในร่างกายโดยเฉลี่ยประมาณ 6 ชั่วโมง   นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานสนับสนุนประโยชน์ของกาแฟอีกว่า คาเฟอีน ซึ่งมีผลต่อ สารแอดิโนซินและโดปามีน ส่งผลดีระยะยาวในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ และโรคมะเร็งบางชนิด รวมถึงเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย เพิ่มพลังในการออกกำลังกายได้มากขึ้นอีกด้วย     ดื่มกาแฟ อย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มพิกัด     จะเห็นได้ว่า ข้อดีของกาแฟมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายมิติเป็นอย่างมาก และวันนี้พันธุ์ไทยมีเทคนิคดีๆ เกี่ยวกับวิธีดื่มกาแฟให้เกิดประโยชน์สูงสุด และนำไปทำตามได้จริงมาบอกต่อกัน   ดื่มกาแฟช่วงเช้า หรือช่วงบ่าย   อย่างที่กล่าวไปในช่วงที่ผ่านมา คาเฟอีนจะออกฤทธิ์ให้ร่างกายตื่นตัวราว 6 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อใช้ประโยชน์ของมันอย่างเต็มที่ ให้ฤทธิ์ของกาแฟบำรุงสมองโดยไม่เกิดผลกระทบอย่างเช่น อาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทในภายหลัง เราจึงควรดื่มกาแฟในช่วงเช้าและช่วงบ่าย จะเป็นเวลาที่ดีที่สุด พอหลังจากบ่าย 2-3 พยายามลดหรือเลี่ยง จะได้ไม่มีปัญหานอนไม่หลับตอนกลางคืนนั่นเอง   ดื่มกาแฟบำรุงสมองควบคู่เมนูอาหารอื่นๆ   กาแฟกระตุ้นให้กระเพาะหลั่งกรดออกมา นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่างเท่าไหร่นัก ซึ่งวิธีแก้ปัญหานี้ก็ง่ายมากๆ คือ ทานอาหารควบคู่ระหว่างดื่มกาแฟไปด้วยเพื่อดึงเอาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกด้านออกมา สำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าจะทานเมนูอะไรคู่กับกาแฟดี สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมในบทความ แจกไอเดียเมนูอาหารเช้า จับคู่กับกาแฟแก้วโปรด เพื่อเป็นไอเดียกันดูได้นะ   ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น   คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำต้องเข้าใจประสบการณ์ปวดฉี่บ่อยเป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟ สรรพคุณมีส่วนกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำ เป็นผลให้เราต้องเข้าห้องน้ำไปปลดปล่อยบ่อยกว่าปกติ สิ่งที่ตามมาก็คือร่างกายของเราจะเสียน้ำไปมากขึ้นด้วย ดังนั้นหลังจากดื่มกาแฟแล้ว อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว   กาแฟบำรุงสมอง ดื่มแล้วดี แต่มีข้อควรระวัง   แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงประโยชน์ของกาแฟที่มอบผลดีให้ร่างกายทั้งหมดเพียงอย่างเดียว แม้คาเฟอีนจะช่วยให้รู้สึกดี และมีประโยชน์หลากหลายมากแค่ไหน แต่หากดื่มมากจนเกินความพอดีมันก็สามารถทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ ความดัน และระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น   ในส่วนนี้ร่างกายของแต่ละคนจะมีความสามารถในการต้านทานฤทธิ์ของคาเฟอีนแตกต่างกัน ดังนั้นต้องสังเกตตัวเองว่าปริมาณแค่ไหนถึงจะไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับตัวเรา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมาจากการรับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไปนั่นเอง   ระวังดื้อคาเฟอีน   สมองของเราสามารถปรับตัวให้เข้ากับปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับเป็นประจำได้ เมื่อรับคาเฟอีนต่อเนื่องเป็นเวลานาน สมองจะชินโดยอัตโนมัติจนมีความรู้สึกว่าต้องรับคาเฟอีนมากเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ เพราะปริมาณเท่าเดิมเริ่มมอบความรู้สึกดีๆ หรือใช้ประโยชน์ของกาแฟไม่เต็มที่อีกต่อไป และนี่ก็ยังเป็นเหตุผลที่เมื่อหยุดทานกาแฟกระทันหันอาจมีอาการปวดหัว กระวนกระวาย ไม่สบายตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถลดปริมาณกาแฟลงบ้างในบางช่วง เพื่อหลอกร่างกายให้กลับมาสู่สภาพปกติ   ระวังการดื่มกาแฟที่มากเกินไป   เราไม่ควรรับคาเฟอีนมากเกิน 400 mg ต่อวัน หรือเทียบกับเอสเพรซโซ่ 30 ml 6 แก้ว เพราะถึงกาแฟบำรุงสมองได้ แต่การดื่มในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้เราเกิดอาการปวดฉี่บ่อย ท้องเสีย หรือมีคุณภาพการนอนที่ต่ำลงได้เช่นกัน   ระวังน้ำหนักขึ้น!   ต้องบอกก่อนว่า กาแฟดำ ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นแน่นอน ความเป็นจริง คือ ประโยชน์ของกาแฟดำ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มพลังในการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ว่า..หลายๆคนก็มักจะชอบดื่มกาแฟที่เพิ่มน้ำตาลเข้าไปเพื่อรสชาติที่ดีขึ้น ซึ่งน้ำตาลที่แฝงเข้ามานี่แหละที่อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีที่สุดคือ พยายามเลือกดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล หรือถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆ แนะนำให้สั่งหวานน้อยเพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลอย่างเหมาะสมแทน   ระวังฟันเหลือง   การทานอาหารที่มีสี ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรือแกงต่างๆ นั้นเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มโอกาสให้มีปัญหาฟันเหลือง จากอีกหลายๆ ปัจจัย แต่ถ้าหากหลังดื่มกาแฟเราแปรงฟันทันที หรือบ้วนปากหลังดื่มตามเข้าไป จะช่วยลดปัญหานี้ไปได้มาก อีกเทคนิคหนึ่ง ถ้าดื่มกาแฟแบบเย็นการใช้หลอดจะช่วยลบคราบบนฟันหน้าได้ด้วยนะ     ข้อดีของกาแฟนั้นมีงานวิจัย รวมถึงหลักฐานสนับสนุนว่ามีผลดีต่อร่างกาย และกาแฟบำรุงสมอง โดยทำงานออกฤทธิ์กับระบบประสาทส่วนกลางในเชิงบวกหลายด้านทีเดียว อย่างไรก็ตาม แนะนำให้สังเกตร่างกายตัวเองในการดื่มกาแฟอย่างพอดีเพื่อผลประโยชน์สูงสุดกันนะ   มาดื่มด่ำรับประโยชน์จากกาแฟดีๆ ที่ทั้งอร่อย เข้มข้น และได้ประโยชน์ ได้ที่ เมนูกาแฟพันธุ์ไทย สั่งซื้อได้ที่ร้านพันธุ์ไทยใกล้บ้าน หรือจิ้มสั่งผ่านแอปเดลิเวอรีส่งถึงที่ได้ง่ายๆเลย   อ้างอิง: - https://www.healthline.com/health-news/hypertension-3-cups-of-coffee-a-day-may-lower-blood-pressure?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR2ifrUAtaM9F2n-NVUuUaxWD36shGYGIYFJ6tWBqRVSTIPv942m49pp89s_aem_AbB1fqmbTwKrS0DzOy1kekHmtzk64peGsLzzGp0f9lgN66omceW-d7GLytXaZ_QIOXl5-xTdmDgFvZDTCf3rZNpT#Should-people-with-high-blood-pressure-drink-coffee - https://www.news-medical.net/news/20230207/People-who-regularly-drink-coffee-have-significantly-lower-blood-pressure.aspx?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR3GaxNrkjNIOlJR4USRwNEpKHGvTsAS1Jh9wjrHJ0rZn7pIQUXw5EqQzE0_aem_AbDMfyiRjc6nAtg3RizmzALQNk5CAvjxKJcZ-NJB7lm9pNkxv6FGPaUDuAQgAx07iZoYr74B3pMt5EjB-_ZHpSYG - https://edition.cnn.com/2021/11/16/health/coffee-and-tea-benefits-stroke-dementia-wellness/index.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR1OXNUoNZp0tfaEzULFJ1x80YAjVc-L9Oa1xzHcXy3JXnItNj6SDAjdmKk_aem_AbAbIEJACv3x5cR3t7AoczN0UUYGUbUbYV32DlfMObkXU8K5qOtxB75TmnSaGFVLv0ycsz-Cbc3oRWsQH1LDrpTH - https://www.youtube.com/watch?v=foLf5Bi9qXs&ab_channel=TED-Ed - https://www.fda.gov/consumers/consumer-updates/spilling-beans-how-much-caffeine-too-much?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR3eTWpz_DJLY_I26jTDl4cBwQw1DGhEOAuFLS_AQVkOisAbUkhaDimILMY_aem_AbDLj0Y2G7Dk1aJwTdOKZxBQ0ggx6OpHTbWCwjNeukwKq3_e-Dd4pHygUxcMBhi3bqPrbubsqJoVVIUaeKUW84JI
อ่านต่อ
พันธุ์ไทยทำถึง! วัตถุดิบท้องถิ่นไทยถูกต่อยอดสู่เมนูใหม่ที่เข้าถึงได้ทุกคน
พันธุ์ไทยทำถึง! ต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่นไทยสู่เมนูใหม่ที่เข้าถึงได้ทุกคน   ประเทศไทยของเรานั้นถือได้ว่าเป็นดินแดนทองแห่งทรัพยากรที่หลากหลายโดยเฉพาะวัตถุดิบท้องถิ่นจากธรรมชาติ ที่ปลูกและเติบโตอย่างแข็งแรงในแผ่นดินไทยที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้พื้นบ้าน สมุนไพร ธัญพืช รวมไปถึงกลุ่มโปรตีนจากสัตว์นานาชนิดที่เลี้ยงและทำการเพาะพันธุ์กันอย่างแพร่หลาย พันธุ์ไทยเห็นคุณค่าของวัตถุดิบจากชุมชน เราจึงส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น มาเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานไปด้วยความแปลกใหม่จากธรรมชาติและความลงตัวจากวัตถุดิบพื้นบ้านที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี     แหล่งที่มาของวัตถุดิบท้องถิ่นของพันธุ์ไทย   สิ่งที่น่าเสียดายก็คือในอดีตที่ผ่านมา เราอาจละเลยที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท้องถิ่นเหล่านี้อย่างเต็มที่ โดยอาจเน้นไปที่การส่งออกวัตถุดิบบางอย่างเพื่อแลกกับรายได้และการบริโภคสินค้าจากต่างประเทศมากกว่า   แต่ในปัจจุบันเริ่มมีแนวคิดในการต่อยอดจากวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย เช่น ส้มมะปี๊ด ตาลโตนด มัทฉะจากใบชาที่ปลูกบนดอย ชาอัสสัมที่ปลูกในจังหวัดน่าน กาแฟอาราบิก้าที่ปลูกบนเขา โดยพันธุ์ไทยได้พัฒนาเป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ทันสมัย เข้าถึงได้ง่าย และสร้างความหลากหลายให้กับตลาดอาหารและเครื่องดื่มในไทยมากขึ้น ด้วยแนวทางความคิดที่ช่วยสนับสนุนการนำวัตถุดิบพื้นบ้านเช่นนี้ จึงนับว่าเป็นการตอกย้ำและสร้างคุณค่าให้กับวัตถุดิบท้องถิ่นไทย     การคิดค้นสูตรและเมนูใหม่ของพันธุ์ไทย   การต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่นสู่เมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ทั้งจากภาคเอกชน อุตสาหกรรมอาหาร ร้านอาหาร และคาเฟ่ต่างๆ อีกทั้งจากการริเริ่มของภาครัฐและสถาบันการศึกษาที่เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรท้องถิ่น ผ่านการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ   ดังนั้น เมนูใหม่และผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นไทยเหล่านี้ มีตั้งแต่เมนูอาหารคาว หวาน ขนม เบเกอรี ไปจนถึงเครื่องดื่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางบางชนิด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของประโยชน์ที่เราสามารถดึงออกมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นของเรา พันธุ์ไทยเล็งเห็นคุณค่าการนำวัตถุดิบของท้องถิ่นมาใช้ เพื่อชูโรงเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มแบรนด์พันธุ์ไทย และได้นำเสนอเมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและความโมเดิร์นของการปรุงเครื่องดื่มได้อย่างลงตัว     เอกลักษณ์ของเมนูพันธุ์ไทยสไตล์ไทยร่วมสมัย   การออกแบบเมนูสไตล์ไทยร่วมสมัย   เมนูพันธุ์ไทยสไตล์ไทยร่วมสมัยนั้น มีเอกลักษณ์โดดเด่นในการผสมผสานรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบไทยแท้ๆ กับแนวคิดการสร้างสรรค์เครื่องดื่มแบบสมัยใหม่ ทั้งในแง่ของวัตถุดิบ เทคนิคการปรุง รวมไปถึงการเสิร์ฟและตกแต่งแก้วให้สวยงามและน่าดื่มมากยิ่งขึ้น   โดยเริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบดั้งเดิมที่เป็นผลไม้ สมุนไพร พืชผักพื้นบ้าน หรือส่วนประกอบจากธรรมชาติในท้องถิ่นต่างๆ ของไทย จากนั้นจึงนำมาผสมผสานกับเทคนิคการปรุงเครื่องดื่มแบบสมัยใหม่ โดยใช้วัตถุดิบให้ความหวานจากธรรมชาติ เช่น ตาลโตนด เพื่อสร้างรสชาติที่แปลกใหม่และน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม   คัดสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่น   “พันธุ์ไทย” ได้มีแคมเปญเมนูใหม่ที่ทำมาจากวัตถุดิบของท้องถิ่นมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะการนำตาลโตนด ที่ทั้งหอม หวาน จากสงขลา มาเป็นส่วนผสมเพิ่มความหวานให้กับเมนูกาแฟ สรรสร้างเป็นกาแฟโตนด ชาไทยโตนด และ นมสดโตนด หรือ การนำส้มมะปี๊ด ผลไม้ประจำท้องถิ่นของจันทบุรี มาครีเอทป็นเมนู จี๊ดกาแฟ และ จี๊ดชาไทย นำมะม่วงเบาจากสงขลา มาทำเป็นม่วงเบากาแฟเย็น ม่วงเบาปั่น หรือนำชาอัสสัมที่ปลูกในจังหวัดน่านมาผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ชาอัสสัมเบอร์รี ชาอัสสัมยูซุ ชาอัสสัมพีช ฯลฯ   ราคาไม่แพง คุ้มค่าคุ้มราคา   การที่พันธุ์ไทยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงทำให้เราได้วัตถุดิบที่สดใหม่ พร้อมสนับสนุนชุมชนและเกษตรกรให้มีรายได้ประกอบกับกระบวนการปรุงและการนำเสนอก็ไม่ซับซ้อนมากนัก พันธุ์ไทยจึงสามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มหรือส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป   นอกจากนี้ ด้วยรสชาติที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ ประกอบกับการสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ลูกค้าพันธุ์ไทยได้รับความคุ้มค่า คุ้มราคาอีกทั้งได้ลิ้มลองรสชาติที่อร่อย เปี่ยมด้วยคุณค่าจากวัตถุดิบธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย     หาซื้อได้ง่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์   สำหรับใครที่แวะเติมน้ำมันที่ปั้ม PT แล้วเกิดกระหายน้ำขึ้นมา เรามีร้านพันธุ์ไทยเปิดให้บริการอยู่ทั้งหมดกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ หรือใครที่ไม่ได้ออกไปไหน นอนอยู่บ้าน แต่อยากดื่มเครื่องดื่มของพันธุ์ไทยขึ้นมา เราพร้อมที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติแบบไทยแท้และแปลกใหม่ ด้วยวัตถุดิบพื้นบ้านที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี สามารถสั่งเครื่องดื่มออนไลน์บนเว็บไซต์พันธุ์ไทยหรือสั่งในแอปเดลิเวอรีได้เลย!   คุณประโยชน์ของเครื่องดื่มที่ทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่น   การผลิตเครื่องดื่มจากวัตถุดิบท้องถิ่นนั้นมีประโยชน์หลายประการ ทั้งในแง่ของการสร้างโอกาสให้กับชุมชน การเพิ่มรายได้และการอนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิม   การสร้างโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่น   พันธุ์ไทยเลือกที่จะใช้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน เนื่องจากเป็นการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยและผู้ประกอบการในชุมชนให้มีรายได้เสริม นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจไปสู่ท้องถิ่นต่างๆ ไม่กระจุกตัวอยู่แค่ในเมืองใหญ่   ช่องทางสร้างงานและรายได้ให้กับคนในชุมชน   อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มจากวัตถุดิบท้องถิ่นของพันธุ์ไทย เปิดโอกาสในการจ้างงานและสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนหลายส่วน ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกและจัดหาวัตถุดิบ ผู้ประกอบการรายย่อยที่แปรรูปผลผลิต พนักงานในโรงงาน รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าปลีกที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ รายได้เหล่านี้จะไหลเวียนกลับสู่ชุมชน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้มีความมั่นคง   อนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น   ภูมิปัญญาการรังสรรค์เครื่องดื่มจากวัตถุดิบชุมชนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ถูกสั่งสมและสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ การนำวัตถุดิบท้องถิ่นรวมถึงกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมมาใช้ในปัจจุบัน จะช่วยอนุรักษ์ให้ภูมิปัญญาเหล่านี้คงอยู่และได้รับการสานต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน นอกจากนี้ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในชุมชนนั้นๆ   เมนูพันธุ์ไทย จากวัตถุดิบในชุมชนสู่นักดื่มทุกเพศทุกวัย   ครั้งแรก ที่เครื่องดื่มถูกส่งตรงจากไร่สู่มือคุณ “พันธุ์ไทย” ขอนำเสนอเครื่องดื่มยอดนิยมที่จะพลิกโฉมวัตถุดิบจากท้องถิ่นสู่เมนูยอดนิยมที่รองรับทุกรสนิยมของทุกเพศทุกวัย เป็นเครื่องดื่มคุณภาพที่ราคาจับต้องได้ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกษตรกรไทยและผู้ผลิตรายย่อยในประเทศได้รายได้อีกด้วย จะมีเมนูไหนและทำจากวัตถุดิบอะไรบ้าง ตามมาดูกัน!     1. เมนูจากชาอัสสัม ที่ปลูกในจังหวัดน่าน   - ชาอัสสัมเบอร์รี: หอมชาอัสสัม หวาน สดชื่นแบบเบอร์รี้เบอร์รี่ - ชาอัสสัมยูซุ: เปรี้ยวจี๊ดโดนใจ หลงรักส้มยูซุเข้าเต็มเปา - ชาอัสสัมพีช: ความหวามอมเปรี้ยวของพีช เข้ากันสุดๆ กับความเข้มของชาน่าน - ชาอัสสัมบ๊วยมะนาว: ความเค็มของบ๊วย ตัดกับความเปรี้ยวของมะนาว กระชุ่มกระชวย ปลุกความสดชื่นได้ดี - ชาอัสสัมออริจินอลร้อน: ชาอัสสัมเพียวๆ ไม่มีอะไรผสม ได้รสสัมผัสของชาเข้มเต็มรสชา - ชาอัสสัมน้ำผึ้งมะนาวร้อน: ชาอัสสัมร้อนๆ กับน้ำผึ้งมะนาว ชุ่มคอ เติมความเปรี้ยวหวานให้ชีวิต     2. เมนูจากมะม่วงเบา ที่ปลูกในจังหวัดสงขลา   - ม่วงเบากาแฟ: กาแฟเข้มๆ มาพร้อมความเปรี้ยวจากม่วงเบา ดื่มแก้วเดียวตื่นทั้งวัน - ม่วงเบาปั่น: เครื่องดื่มเนื้อเนียนให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน อร่อยลงตัว ใครได้กินก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หรอยจังฮู้” - ม่วงเบาซ่า: ความซ่าเต็มสิบ ความเปรี้ยวหวานเต็มร้อย ใครอยากเติมความซ่า แบบสดชื่น แนะนำแก้วนี้     3. เมนูจากตาลโตนด ที่ปลูกในจังหวัดสงขลา   - กาแฟโตนดเย็น: กาแฟเข้ม ได้ความหอม หวานจากตาลโตนด เข้ากันสุดๆ - ชาไทยโตนดเย็น: หอม ละมุนจากตาลโตนด ผสมผสานกับความเข้มของชาไทย ดื่มแก้วนี้ไปฟินทั้งวัน - นมสดโตนดเย็น: นมสดหอมๆ มาเจอกับตาลโตนดหวานกำลังดี แก้วนี้ทั้งนัวทั้งกลมกล่อม     4. เมนู มารุเซ็น มัทฉะ พรีเมียม ที่ปลูกในจังหวัดเชียงราย   - มัทฉะแฟรปเป้: ความเข้มข้นของมัทฉะ พรีเมียม ผสานความนุ่มของนมสด เบลนด์ไปกับน้ำแข็ง จนได้มัทฉะสมูทตี้เนื้อเนียน เย็นชื่นใจ - มัทฉะฮันนี่ไลม์: สดชื่นแบบไลท์ๆ ต้องยกให้เมนูนี้ กับความหอมหวานของน้ำผึ้ง และความเปรี้ยวของมะนาว ปลุกความสดชื่นถึงใจ คลายร้อนได้แบบเกินต้าน - มัทฉะเจลลีลาเต้: เพิ่มสีสันบวกดีกรีความสนุก มัทฉะ ลาเต้ ด้วยเจลลี่ สตรอว์เบอร์รี เข้ากันดี อร่อย เคี้ยวเพลิน - มัทฉะลาเต้: มัทฉะ พรีเมียม คุณภาพญี่ปุ่นต้นตำรับ รสละมุน เข้ากันดีกับความหอม มันของนมสด อร่อยลงตัว     5. เมนูจากส้มมะปี๊ด ที่ปลูกในจังหวัดจันทบุรี   - จี๊ดกาแฟเย็น: สายเข้มต้องโดน ผสมผสานระหว่างกาแฟเข้มๆ กับน้ำส้มมะปี๊ด อร่อยสดชื่นได้ทั้งวัน - จี๊ดชาไทยเย็น: สายชา แต่ต้องการความสดชื่น หอมกลิ่นชา ผสมกับความเปรี้ยวของส้มมะปี๊ด ให้รสชาติที่ลงตัวสุดๆ     6.เมนูจากข้าวโพดจุกใจ จากไร่สุวรรณในจังหวัดนครราชสีมา   - โพดลาเต้: หอมหวานเข้มข้นด้วยกาแฟพันธุ์ไทย ท็อปด้วยเมล็ดข้าวโพดหวาน เพิ่มเทกเจอร์ความอร่อยนุ่ม เคี้ยวเพลิน - โพดชาเขียว: เจอกับความเข้มของชาเขียว ความหอมหวานของข้าวโพด กลมกล่อมจนหยุดไม่ได้ - โพดโกโก้: สายโกโก้ถูกใจสิ่งนี้ ดาร์คโกโก้เข้มข้น ผสมผสานกับความหวานจากข้าวธรรมชาติ แก้วนี้คนไม่ดื่มชา กาแฟ ต้องเลิฟ - โพดนมปั่น: ไม่มีอะไรจะเข้ากันไปมากกว่านมกับข้าวโพด ความนัวของนมและความหอม หวานนิดๆ ของข้าวโพด เมนูนี้ต้องโดน!     7.เมนูจากสตรอว์เบอร์รี พันธุ์ 80 ที่ปลูกในจังหวัดเชียงใหม่   - อเมริกาโนโซดาสตรอว์เบอร์เร่อ: สตรอว์เบอร์รีสุดเฟรช ผสานโซดาซ่า และกาแฟเข้มจากยอดดอย - ลาเต้สตรอว์เบอร์เร่อ: สตรอว์เบอร์รีจัดเต็ม เบลนด์กับลาเต้รสกลมกล่อม อร่อยลงตัว - ชาไทยสตรอว์เบอร์เร่อ: ฉ่ำรสสตรอว์เบอร์รี หอมฟุ้งแบบเบอเร่อด้วยชาไทยสูตรพิเศษ   เป็นอย่างไรกันบ้างกับเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นทั่วประเทศไทย แค่อ่านก็สัมผัสได้ถึงความสดชื่นเลยใช่ไหมล่ะ นอกจากจะได้ความอร่อยแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับชุมชน การใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นช่วยส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรไทย เปิดโอกาสในการจ้างงานและสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วรออะไรล่ะ รีบมาอุดหนุนเครื่องดื่มพันธุ์ไทยกันเถอะ!   อ้างอิง: - “กาแฟพันธุ์ไทย”ชูวัตถุดิบชุมชน เสิร์ฟ “หรอยแรง มะม่วงเบา สงขลา" - PunThai Coffee Facebook
อ่านต่อ
PunThai Bio Cup แก้วรักษ์โลก ย่อยสลายได้ 100% ลดขยะ ยกระดับชีวิต
PunThai Bio Cup แก้วรักษ์โลก ย่อยสลายได้ 100% ช่วยลดขยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   เคยไหม เวลาเราไปซื้อกาแฟที่ร้าน แล้วเห็นป้ายโปรโมทว่าร้านนี้เปลี่ยนมาใช้ Bio Cup แล้ว เรามักจะสงสัยว่าแก้วไบโอ มันคือแก้วอะไรกันนะ? เกริ่นก่อนว่ายุคปัจจุบัน ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารก็เริ่มหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม และอยากมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะบนโลก โดยหันไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ นี่แหละคือที่มาของ “แก้วรักษ์โลก” หรือ “Bio Cup” นั่นเอง นอกจากจะเป็นแก้วที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว แก้วประเภทนี้ยังมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย พันธุ์ไทยจะพาไปทำความรู้จักแก้วไบโอ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงข้อดีของแก้วชนิดนี้กัน     “Bio Cup” หรือ “แก้วรักษ์โลก” คืออะไร ทำมาจากอะไร?   รู้หรือไม่ว่า แก้วพลาสติก 1 ใบ ใช้เวลาย่อยสลายตามธรรมชาติหลายร้อยปี พอเทียบกับปริมาณคอกาแฟในประเทศไทย ซึ่งมีมากกว่า 2 ล้านคนหรืออาจจะมากกว่านั้น จากสถิติคนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ยคนละ 240 แก้วต่อปี แสดงว่าต่อปี คนไทยใช้แก้วพลาสติก 480 ล้านใบ ร้านกาแฟหลายร้านจึงหันมาใช้แก้วกระดาษ แต่หารู้ไม่ แก้วกระดาษทั่วไปก็ย่อยสลายไม่ได้ 100% เนื่องจากแก้วกระดาษทั่วไปที่เราใช้อยู่นั้นมีฟิล์มพลาสติกเคลือบอยู่นั่นเอง   ในที่สุดนวัตกรรมรักษ์โลกก็สรรค์สร้าง "Bio Cup" หรือ "แก้วรักษ์โลก" ซึ่งเป็นชื่อเรียกของแก้วพลาสติกชนิดพิเศษที่ทำมาจากวัสดุชีวภาพย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ โดยแก้วชนิดนี้ผลิตขึ้นจากพอลิแลคติกแอซิด (Polylactic Acid หรือ PLA) ซึ่งเป็นพลาสติกชีวภาพที่สังเคราะห์จากวัตถุดิบธรรมชาติ มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อยหรือน้ำตาลจากพืชอื่นๆ   การนำวัตถุดิบเหล่านี้มาผ่านกระบวนการทางเคมี จะได้เม็ดพลาสติกสีขาวนวล ที่มีลักษณะคล้ายพลาสติกทั่วไป แต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เนื่องจากสามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และใช้เวลาย่อยสลายเพียงไม่ถึงปีเท่านั้น รู้แบบนี้แล้ว เราจะยังใช้แก้วพลาสติกธรรมดาอีกหรือ?     วิธีการผลิตแก้วไบโอ   กระบวนการผลิตแก้วไบโอหรือ Bio Cup นั้น มีขั้นตอนคล้ายกับการผลิตพลาสติกทั่วไป ดังนี้   1. เริ่มจากการนำวัตถุดิบที่เป็นแป้งพืช เช่น แป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวโพด หรือน้ำตาลจากพืชอื่นๆ มาทำปฏิกิริยากับกรดแลคติก ซึ่งจะได้พอลิเมอร์ชีวภาพชนิดหนึ่งคือ พอลิแลคติกแอซิด (PLA) ออกมา 2. หลังจากนั้น PLA ในรูปของเม็ดพลาสติกจะถูกนำมาอัดขึ้นรูปด้วยกระบวนการเดียวกับการขึ้นรูปพลาสติกทั่วไป เช่น การฉีดหล่อ การเป่าขึ้นรูป หรือการกดอัดร้อน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแก้วกาแฟ แก้วน้ำ หรืออุปกรณ์บรรจุอาหารชนิดอื่นๆ 3. ในขั้นตอนสุดท้าย อาจมีการตกแต่งลวดลาย เพิ่มโลโก้หรือสีสันเพิ่มเติม เพื่อความสวยงามและดึงดูดผู้บริโภค ก่อนที่จะบรรจุภัณฑ์และจัดจำหน่ายต่อไป     5 ข้อดีของการผลิตและใช้แก้วรักษ์โลก   1. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100%   Bio Cup นั้นผลิตจากวัตถุดิบที่เป็นพืชธรรมชาติ 100% ไม่ว่าจะเป็นแป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวโพด หรือน้ำตาลจากพืชอื่นๆ ซึ่งจัดว่าเป็นทรัพยากรที่สามารถหมุนเวียนได้ (Renewable Resources) ไม่เหมือนกับพลาสติกทั่วไปที่ผลิตจากน้ำมันปิโตรเลี่ยมซึ่งเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป   กระบวนการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   นอกจากวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว กระบวนการผลิตแก้วไบโอก็ถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน โดยใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าการผลิตพลาสติกทั่วไปถึง 52% และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนลดลงถึง 71.8% เมื่อเทียบกับพลาสติกทั่วไปประเภทเดียวกัน   2. แก้วย่อยสลายได้ง่ายและรวดเร็ว   การลดปริมาณขยะและพลาสติกอย่างยั่งยืน   หนึ่งในข้อดีสำคัญของการใช้แก้วรักษ์โลกคือช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน เนื่องจาก Bio Cup ผลิตมาจากพอลิแลคติกแอซิด (PLA) ซึ่งเป็นพลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ   ในขณะที่แก้วพลาสติกทั่วไปต้องใช้เวลานานนับร้อยปีในการย่อยสลาย แต่ Bio Cup นั้นสามารถย่อยสลายได้ภายในระยะเวลาเพียง 3-6 เดือนเท่านั้น เมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม โดยจะย่อยสลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ ซึ่งเป็นสารประกอบที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม   หากนำ Bio Cup ไปกำจัดในโรงงานปุ๋ยหมักอุตสาหกรรม ก็จะสลายตัวเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่อุดมด้วยสารอาหารพืชได้ภายในเวลาประมาณ 180 วัน ทำให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อได้อีก ซึ่งแตกต่างจากแก้วพลาสติกทั่วไปที่จะตกค้างเป็นขยะสะสมในสิ่งแวดล้อมนานนับพันปี     การรีไซเคิลที่ง่ายขึ้น   จากคุณสมบัติย่อยสลายได้ง่ายของแก้วไบโอ จึงทำให้สามารถรีไซเคิลได้ง่ายกว่าพลาสติกทั่วไป เนื่องจากพอลิแลคติกแอซิด (PLA) เป็นพลาสติกชนิดเดียวที่สามารถหลอมรวมเข้ากันได้โดยไม่ต้องผสมกับพลาสติกประเภทอื่น ทำให้กระบวนการรีไซเคิลมีประสิทธิภาพสูงกว่า   การรีไซเคิลแก้วรักษ์โลก จึงเป็นเพียงการนำไปหลอมละลายที่อุณหภูมิประมาณ 140-180 องศาเซลเซียส แล้วขึ้นรูปใหม่ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการคัดแยกหรือบำบัดเบื้องต้นซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานและลดต้นทุนในกระบวนการได้มาก   นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จากการรีไซเคิล Bio Cup ยังคงคุณภาพการใช้งานเทียบเท่ากับของใหม่ ซึ่งแตกต่างจากการรีไซเคิลพลาสติกทั่วไปที่จะมีคุณภาพด้อยลงจากการผสมกับพลาสติกประเภทต่างๆ   3. มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด   การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับบรรจุอาหาร   Bio Cup หรือแก้วรักษ์โลกผลิตมาจากพอลิแลคติกแอซิด (PLA) ซึ่งเป็นพลาสติกชีวภาพประเภทหนึ่ง โดย PLA ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับบรรจุอาหารจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และสหภาพยุโรป (EU) แล้ว   หมายความว่า Bio Cup ปลอดภัยต่อการสัมผัสกับอาหารและเครื่องดื่มโดยตรง เนื่องจากไม่มีสารเคมีหรือสารพิษตกค้างจากกระบวนการผลิต จึงสามารถใช้บรรจุอาหารแบบร้อนและเย็นได้อย่างปลอดภัย   นอกจากนี้ Bio Cup ยังปลอดสารก่อมะเร็งอย่างบิสฟีนอล เอ (Bisphenol A หรือ BPA) ที่พบในบางประเภทของพลาสติก ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค   กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP   ในกระบวนการผลิตแก้วรักษ์โลกนั้น โรงงานผู้ผลิตได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) หรือหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการผลิตที่ดีที่สุดของโลก   การผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP จะมีการควบคุมกระบวนการอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การผลิต การบรรจุ จนถึงการจัดส่ง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุด ปลอดภัย และได้มาตรฐานตามที่กำหนด   ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าแก้ว Bio Cup ที่ย่อยสลายได้นั้นได้รับการผลิตด้วยความรอบคอบและระมัดระวังตามหลักสากล จึงมีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสูงสุด   4. คุณสมบัติและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย   ดีไซน์ทันสมัยและสวยงาม   นอกจากBio Cup จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ผู้ผลิตยังใส่ใจด้านการออกแบบให้มีดีไซน์ที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมความสวยงามอีกด้วย Bio Cup มีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่โทนสีพื้นธรรมชาติอย่างน้ำตาลออร์แกนิก เขียวอ่อน ชมพู ฟ้าสดใส จนถึงลวดลายลายน่ารักๆ สไตล์วินเทจ แบบอาร์ตเดคโคหรือโมเดิร์น ทำให้แก้วรักษ์โลกดูร่วมสมัย ทันเทรนด์ และน่าดึงดูดใจมากขึ้น   การออกแบบดีไซน์อย่างพิถีพิถันนี้ ทำให้แก้วรักษ์โลกดูมีคุณค่าและไม่ด้อยไปกว่าแก้วพลาสติกทั่วไป แม้จะทำจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็สวยงามและน่าใช้ เผลอๆ พอเรารู้ว่าเป็นแก้วรักษ์โลกแล้ว เราจะยิ่งรู้สึกอยากใช้มันมากขึ้นด้วยซ้ำ   ขนาดและรูปแบบให้เลือกหลากหลาย   ผู้ผลิต Bio Cup ได้คำนึงถึงความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค จึงได้ออกแบบและผลิต Bio Cup ในขนาดและรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆโอกาสและประเภทร้านค้าได้   Bio Cup มีขนาดตั้งแต่ 4 ออนซ์ ไปจนถึง 24 ออนซ์ รองรับได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น ตั้งแต่เมนูกาแฟสด ชา น้ำผลไม้ สมูทตี้ จนถึงเครื่องดื่มขนาดใหญ่ ทำให้ร้านกาแฟหรือร้านเครื่องดื่มสามารถเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสมกับเมนูของตนได้   นอกจากนี้ Bio Cup ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งแบบมีฝาปิด แบบไม่มีฝา แบบมีหู แบบไม่มีหู แบบบรรจุเดี่ยว หรือแบบถาดรองรับ เพื่อให้สะดวกแก่การใช้งานในโอกาสต่างๆ มากยิ่งขึ้น     5. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่   การยกระดับไลฟ์สไตล์   แก้วรักษ์โลกย่อยสลายได้ นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับสไตล์การใช้ชีวิตให้ดูทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจต่อโลกและสังคมรอบข้าง   การนำ Bio Cup ไปใช้ในการดื่มกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ ทำให้ดูมีรสนิยมที่ดี เนื่องจากเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แทนแก้วพลาสติกทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อโลกเรา   นอกจากนี้ Bio Cup ยังมีดีไซน์ที่สวยงามช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและยกระดับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้ดูทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม   ส่งเสริมการมีจิตสำนึกรักษ์โลกและใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน   การใช้ Bio Cup เป็นการสร้างจิตสำนึกในการรักษาโลกให้กับผู้คนยุคใหม่อย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นการลดปริมาณขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อโลกและสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้แก้วรักษ์โลกแทนแก้วพลาสติกทั่วไป จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีจิตสำนึกรักษ์โลก ซึ่งจะนำไปสู่การตระหนักและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอื่นๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น   ผู้ผลิต Bio Cup เองก็ให้ความสำคัญต่อการสร้างจิตสำนึกนี้ โดยจัดกิจกรรมรณรงค์และสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลุกจิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับโลก   การใช้และสนับสนุน Bio Cup จึงนับเป็นการมีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกรักษ์โลกด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ รอบตัวก่อน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต่อไป     รู้หรือไม่พันธุ์ไทยเปลี่ยนมาใช้ PunThai Bio Cup ทุกสาขาแล้ว   พันธุ์ไทยขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์กับโครงการรักษ์โลกและดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น โดยทางเราได้เปลี่ยนไปใช้แก้วรักษ์โลกแทนการใช้แก้วพลาสติกหรือแก้วกระดาษแบบธรรมดา ทั้งนี้เพื่อเป็นตัวแทนของร้านกาแฟในประเทศไทยในการช่วยกันลดขยะ ช่วยคืนพื้นที่สีเขียวให้กับธรรมชาติ อีกทั้งยังร่วมกันส่งเสริมการมีจิตสำนึกรักษ์โลกและใช้ชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ที่สำคัญเครื่องดื่มของพันธุ์ไทยยังช่วยให้เกษตรกรไทยมีรายได้ เพราะเราใช้วัตถุดิบจากชุมชน เป็นการอุดหนุนให้คนไทยด้วยกันมีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ติดตามเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์รักษ์โลกและกาแฟพันธุ์ไทยได้ที่เว็บไซต์พันธุ์ไทย หรือ เฟซบุ๊คกาแฟพันธุ์ไทย   อ้างอิง: - 5 BioCup Myths Busted! | BioPak Australia - Biocup project - ENG - Happy Cups - แก้วรักษ์โลก 100% ย่อยสลายได้ - Biodegradable Cup 100% Environmentally Degradable | Advance Bio
อ่านต่อ
ไขข้อข้องใจ "ชาสีส้ม"
ไขข้อข้องใจ "ชาสีส้ม" เรียกว่าอะไรกันแน่ ชาเย็น หรือ ชาไทย    ชาสีส้มเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในประเทศไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน ด้วยรสชาติที่เข้มข้น หอมหวาน และสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ ชาสีส้มจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก จนหลายคนคงเคยสงสัยว่า ชาสีส้มเรียกว่าอะไรกันแน่ "ชาเย็น" หรือ "ชาไทย" วันนี้พันธุ์ไทยจะมาไขข้อข้องใจและเจาะลึกเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับชาสีส้มให้กระจ่าง     ศึกชาสีส้ม: ชาเย็น vs ชาไทย แล้วทำไมชาไทยสีส้ม   ชาเย็น หมายถึง ชาชงใส่นม น้ำตาล และน้ำแข็ง โดยทั่วไปนิยมใช้ชาซีลอน ชาดำ หรือชาแดงในการชง สีของชาเย็นจะออกเป็นสีน้ำตาลอ่อน   ชาไทย หมายถึง ชาชงใส่นม น้ำตาล และน้ำแข็ง นิยมใช้ชาแดงในการชง ผสมผสานกับ เครื่องเทศ ต่าง ๆ เช่น กานพลู อบเชย โป๊ยกั๊ก ใบเตย ทำให้ชาเย็น และ ชาไทย มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ ชาไทย จะมีรสชาติที่เข้มข้น หอมเครื่องเทศ ส่วนสาเหตุว่าทำไมชาไทยสีส้มนั้นมาจากการผสมสีจากดอกคำฝอย หรือสีผสมอาหาร   สรุปแล้วชาสีส้มเรียกว่าอะไรกันแน่ ชาไทย หรือ ชาเย็น? ในประเทศไทย นิยมเรียกชาสีส้มว่า ชาเย็น หรือ ชาไทย สลับกันไป แต่เพื่อความแน่นอน เมื่อสั่งชาสีส้ม แนะนำให้ระบุเพิ่มเติมว่าใส่นม หรือ ไม่ใส่นม แต่หากต้องการชาสีส้มที่ออกไปในโทนแดงหรือน้ำตาลใส ๆ แนะนำให้สั่ง ชาแดงเย็น หรือ ชาซีลอนเย็น     แล้วคนไทยมีชาสีส้มได้ยังไง ?     ชาสีส้ม ชาเย็น หรือ ชาไทย มีต้นกำเนิดมาจาก ชาจีน ที่ชาวจีนนำเข้ามาขายในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 ชาจีนในสมัยนั้นมีราคาสูงมาก คนไทยจึงดัดแปลงสูตรโดยใช้ใบชาที่ปลูกในประเทศไทย ผสมผสานกับนม น้ำตาล เครื่องเทศต่าง ๆ และดอกคำฝอย เกิดเป็น ชาสีส้ม ชาเย็น หรือ ชาไทยที่เราคุ้นเคยกัน ส่งผลให้ชาสีส้ม ถือเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในประเทศไทย นิยมดื่มในทุกโอกาส เช่น ทานคู่กับอาหาร ทานเล่น หรือใช้ต้อนรับแขก และเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละหลายพันล้านบาท     เสน่ห์ความอร่อยของชาสีส้ม   1. กลิ่นหอม ชาสีส้ม มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ มาจากใบชา นม และเครื่องเทศต่าง ๆ สีสวย น่ารับประทาน   2. รสชาติ ชาสีส้ม มีรสชาติที่เข้มข้น หอมหวาน กลมกล่อม   3. ความสดชื่น ชาสีส้ม ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า   4. ความเย็น ชาสีส้ม เหมาะสำหรับการดื่มเพื่อคลายร้อน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน     ความอร่อยของชาสีส้มที่โด่งดังไปทั่วโลก   ชาไทย หรือชาเย็นเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก ตามแต่ละแง่มุม - มุมนักท่องเที่ยว: นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทย มักจะชิมชาสีส้มเสมอ - มุมร้านอาหารไทย: ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ มักมีชาไทยบริการ - มุมสินค้าส่งออก: ชาไทยเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย     ชาไทยจากกาแฟพันธุ์ไทย: สัมผัสความหอมกรุ่น เข้มข้น กลมกล่อม สไตล์ไทยแท้!     กาแฟพันธุ์ไทย นำเสนอเครื่องดื่มยอดนิยมที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย อย่างชาไทย สูตรพิเศษ หอมกรุ่น เข้มข้น กลมกล่อม ให้คุณสัมผัสความอร่อยแบบไทยแท้   ความพิเศษของชาไทย กาแฟพันธุ์ไทย   ใบชาชั้นดี: คัดสรรใบชาจากแหล่งปลูกชั้นดีทั่วประเทศไทย หอมกรุ่น รสชาติดี กรรมวิธีการชงที่พิถีพิถัน: ชงแบบร้อน ใส่นม น้ำตาล น้ำแข็ง ผสมผสานเครื่องเทศอย่างลงตัว สูตรลับเฉพาะ: สูตรดั้งเดิม สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หวานมัน ความสะอาด: พิถีพิถันในทุกขั้นตอน สะอาด ปลอดภัย   ชาไทย ที่ให้มากกว่าความอร่อย   สนับสนุนเกษตรกรไทย: กาแฟพันธุ์ไทย สนับสนุนเกษตรกรไทย โดยใช้ใบชาไทย 100% สืบสานเอกลักษณ์ไทย: ชาไทย กาแฟพันธุ์ไทย เป็นการสืบสานเอกลักษณ์ความเป็นไทย ราคาคุ้มค่า: นำเสนอชาไทยคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ เพราะมากกว่าความอร่อย คือการสนับสนุนเกษตรกรไทย และสืบสานเอกลักษณ์ความเป็นไทย มาลองสัมผัสความอร่อย หอมกรุ่น เข้มข้น กลมกล่อม กับหลากหลายเมนูชาไทย ที่พันธุ์ไทย ทั้ง ดับเบิ้ลชาไทยร้อน ดับเบิ้ลชาไทยเย็น ชาดำเย็น ชามะนาวเย็น จี๊ดชาไทย พันธุ์ไทย เลิฟเวอร์ทีเย็น และอีกหลากหลายเมนูที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขา สำหรับใครที่หลงรักชาไทย หรือ กาแฟ สามารถติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ ได้ที่ เว็บไซต์กาแฟพันธุ์ไทย
อ่านต่อ
มือใหม่ก็ดริปได้! แชร์วิธีดริปกาแฟยังไงให้อร่อยเหมือนมีบาริสต้าส่วนตัว
มือใหม่ก็ดริปได้! แชร์วิธีดริปกาแฟยังไงให้อร่อยเหมือนมีบาริสต้าส่วนตัว   สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “การดริปกาแฟ” เพราะการดริปกาแฟ ถือเป็นกรรมวิธีชงกาแฟยอดนิยมสายสโลว์ไลฟ์ นอกจากจะต้องใช้ความใจเย็นแล้ว ยังต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่าการชงกาแฟแบบทั่วไป วันนี้พันธุ์ไทยจะพามาทำความรู้จักการดริปกาแฟ เริ่มตั้งแต่อุปกรณ์การดริป วิธีการดริปกาแฟแบบละเอียด ไปจนถึงทริคการดริปกาแฟขั้นเทพ ให้เหมือนมีบาริสต้ามาชงให้ยังไงยังงั้น   การดริปกาแฟคืออะไร   การดริปกาแฟ เป็นวิธีการชงกาแฟผ่านตัวกรองแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งต้องใช้ความพิถีพิถันและตั้งใจในแต่ละขั้นตอน ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความรีบเร่ง แต่รักการดื่มด่ำกาแฟอย่างช้าๆ สัมผัสกลิ่นและรสชาติอย่างละเอียดลออ   ดริปกาแฟจึงถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์ดึงดูดใจคนรักกาแฟสายชิลล์ที่ชื่นชอบความบริสุทธิ์ของกาแฟ โดยไม่ต้องการการปรุงแต่งมากนัก แต่ให้ความสำคัญกับกลิ่นหอมธรรมชาติและรสชาติดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด   การดริปกาแฟมอบสัมผัสที่แท้จริงของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งมีความหลากหลายอย่างมหาศาลจากแหล่งปลูกนานาทวีปทั่วโลก โดยแต่ละแหล่งปลูกก็จะมีรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น หากชอบกาแฟรสเปรี้ยวผสมกลิ่นผลไม้ ก็เลือกพันธุ์อาราบิกาจากเอธิโอเปีย แต่ถ้าชอบรสนัทตี้ผสมช็อกโกแลต ก็ต้องเป็นอาราบิกาจากบราซิล ซึ่งพันธุ์ไทยได้รวบรวมสินค้าเมื่อชงด้วยวิธีดริป รสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวเหล่านี้จะถูกสกัดออกมาได้อย่างชัดเจนมากกว่ากาแฟเมนูอื่นๆ   ดริปกาแฟจึงไม่ใช่แค่รสขมเข้ม แต่เป็นการเปิดประสบการณ์การดื่มกาแฟใหม่ให้คุณได้สัมผัสรสชาติอร่อยละมุนลิ้น เสมือนหนึ่งกำลังจิบไวน์หรือน้ำผลไม้เกรดพรีเมียม ทำให้การดื่มกาแฟกลายเป็นกิจวัตรอันน่าเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน     อุปกรณ์สำหรับดริปกาแฟ   1. เครื่องบดกาแฟ (Coffee Grinder)   เครื่องบดกาแฟแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ บดแบบหมุนด้วยมือและบดแบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้า   Blade Grinder   เป็นเครื่องบดกาแฟประเภทหนึ่งที่มีทั้งแบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและแบบหมุนด้วยมือ โดยจุดเด่นของเครื่องบดแบบนี้คือราคาที่ถูก พกพาสะดวก และทำความสะอาดง่าย   อย่างไรก็ตาม ข้อเสียหลักของ Blade Grinder คือการบดที่ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากใบมีดจะตัดหรือบดเมล็ดกาแฟอย่างไม่เป็นระเบียบ ทำให้ได้ผงกาแฟที่มีขนาดผสมปนเปกันไปหมด ทั้งละเอียด หยาบ และขนาดกลาง ซึ่งความไม่สม่ำเสมอนี้อาจส่งผลต่อกลิ่นหอมและรสชาติของกาแฟ ทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จางหรือเข้มขึ้นในทางที่ไม่ควรเป็น   Conical Burr Grinder   จุดเด่นของเครื่องบดชนิดนี้ คือ การบดที่สามารถควบคุมความละเอียดของผงกาแฟได้อย่างแม่นยำ ด้วยการใช้เฟืองบดแบบโคนิคัลสองชิ้น ซึ่งอาจเป็นวัสดุเซรามิกหรือโลหะก็ได้ ช่วยบดให้ได้ผงกาแฟที่มีขนาดละเอียดสม่ำเสมอกัน   เครื่องบดประเภทนี้มีทั้งแบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและแบบหมุนด้วยมือ ตัวเลือกที่หลากหลายเหมาะสำหรับความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือคุณสามารถปรับความละเอียดของผงกาแฟตามที่ต้องการได้   2. ดริปเปอร์และฟิลเตอร์กาแฟ (Dripper)   ดริปเปอร์ คือ ภาชนะส่วนบน ลักษณะคล้ายแก้วใช้สำหรับใส่กาแฟเพื่อดริป ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน ได้แก่   - เคมี้กซ์ (Chemex): เป็นดริปเปอร์ที่มีรูปทรงคล้ายกรวยแหลมด้านล่าง โดยมีปลายทะลุเป็นรูกว้าง และตัวกรวยเอียงทำมุม 60 องศา ซึ่งเป็นมุมที่เหมาะสมในการสกัดกาแฟ เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟอย่างครบถ้วน   - ดริปเปอร์ทรงกรวยตัด หรือทรงคางหมู (Trapezoid): ดริปเปอร์แบบนี้จะมีลักษณะคล้ายกรวยปากแตร แต่ส่วนปลายจะถูกตัดให้เหลือเพียงรูระบายน้ำขนาดเล็กประมาณ 1-3 รูเท่านั้น รูขนาดจิ๋วนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดควบคุมอัตราการไหลของน้ำร้อนลงสู่ผงกาแฟบด ทำให้น้ำค่อยๆ แทรกซึมและไหลผ่านอย่างช้าๆ อย่างสม่ำเสมอ   - ทรงกระบอก หรือตะกร้า (Cylindrical Shape Dripper or Basket Shape): ดริปเปอร์แบบนี้จะมีลักษณะเป็นทรงกระบอกกลม หรือแบบหยักคล้ายตะกร้า โดยที่ปลายล่างจะมีรูระบายน้ำขนาดเล็กประมาณ 3 รู เพื่อควบคุมอัตราการไหลของน้ำร้อน แตกต่างจากทรงคางหมูที่มีรูเพียงรูเดียว จุดเด่นของดริปเปอร์ทรงกระบอก/ตะกร้า คือการที่ไม่มีที่พักน้ำค้างอยู่ภายในตัวดริปเปอร์ ทำให้สามารถควบคุมการไหลของน้ำร้อนผ่านผงกาแฟบดได้ง่ายขึ้น   3. กระดาษกรอง (Paper Filter)   กระดาษฟิลเตอร์ หรือกระดาษกรองมีให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภท โดยให้เลือกใช้ตามลักษณะของดริปเปอร์   - กระดาษฟิลเตอร์ทรงกรวยปลายแหลม ใช้กับดริปเปอร์ทรงกรวย - กระดาษฟิลเตอร์ทรงกรวยก้นตัด ใช้กับดริปเปอร์ทรงกรวยตัด (ทรงคางหมู) - กระดาษฟิลเตอร์ทรงดอกไม้ (แบบหยัก) ใช้กับดริปเปอร์ทรงกระบอก หรือตะกร้า   4. ถ้วยหรือกาน้ำกาแฟ   กาน้ำที่ใช้สำหรับดริปกาแฟ จะต้องมีคอของกาที่มีลักษณะเรียวยาว โค้งมน และปลายแหลม เพื่อง่ายต่อการเท อีกทั้งยังสามารถควบคุมน้ำหนักและความช้าเร็วได้รินได้อีกด้วย   5. เครื่องชั่งและบีกเกอร์   เครื่องชั่งมีไว้สำหรับวัดปริมาณน้ำกาแฟที่ผ่านกระบวนการดริปมาแล้ว ให้ได้กาแฟดริปที่มอบรสชาติเข้มเต็มรสกาแฟ   6. โถรองดริป (Server)   โถรองดริปมักจะมีรูปทรงคล้ายเหยือกน้ำ ทำจากวัสดุแก้วใส เพื่อให้เราสามารถมองเห็นสีและความสวยงามของกาแฟที่หยดลงมาสู่โถได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ แก้วยังมีคุณสมบัติในการรักษาความร้อนของน้ำกาแฟได้เป็นอย่างดี ช่วยคงรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟให้คงอยู่ได้นานขึ้น     การเลือกและเตรียมเมล็ดกาแฟ   1. ประเภทของเมล็ดกาแฟ   เลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลางหรือคั่วเข้ม ปริมาณเมล็ดกาแฟประมาณ 15-18 กรัม ต่อน้ำ 240 มิลลิลิตร บดด้วยเครื่องบดกาแฟให้ละเอียดพอสมควร อนุภาคไม่ควรบดละเอียดจนเกินไป   2. อัตราส่วนปริมาณกาแฟต่อน้ำ   โดยปกติการดริปกาแฟนั้น จะใช้กาแฟต่อน้ำในอัตราส่วน 1:15 กรัม อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนนี้ไม่ใช่กฎเหล็กที่ตายตัว เนื่องจากสามารถปรับลดหรือเพิ่มได้ตามรสชาติที่ต้องการ หากต้องการดื่มกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น ให้ใช้น้ำในอัตราส่วนที่น้อยลง แต่หากอยากดื่มกาแฟที่มีรสชาติอ่อนกว่า สัมผัสเบา ๆ ให้เพิ่มอัตราส่วนของน้ำขึ้น ประมาณ 1:17 กรัมจะเหมาะสม   อุณหภูมิของน้ำ   อุณหภูมิของน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ ควรเลือกใช้กาดริป (Drip Kettle) ที่มีเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ หรือซื้ออุปกรณ์วัดอุณหภูมิแยกต่างหากเพื่อวัดอุณหภูมิของน้ำก่อนดริปกาแฟ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 92 - 94 องศาเซลเซียส น้ำที่ร้อนจนเกินไปจะทำให้กาแฟมีรสชาติเข้มขึ้น   การเทน้ำและระยะเวลา   นี่เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องหมั่นฝึกฝนและใช้ประสบการณ์ การเทน้ำอย่างมั่นคง ค่อยๆ เทและวนไปให้ทั่วผงกาแฟที่อยู่ภายในดริปเปอร์ มี 2 ความเร็วด้วยกัน ได้แก่   - น้ำไหลช้า หมายถึงใช้เวลาในการสกัดกาแฟนาน ทำให้กาแฟที่ได้มีรสเข้มขมมากกว่าปกติ - น้ำไหลเร็ว หมายถึงใช้เวลาในการสกัดที่เร็วเกินไป ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติอ่อนๆ ใสๆ แต่มีรสเปรี้ยวที่โดดเด่น     วิธีการดริปกาแฟอย่างละเอียดและทริคการดริปขั้นเทพ   1. บดเมล็ดกาแฟ 20 กรัม ให้มีความละเอียดเท่ากับน้ำตาลทรายขาว 2. เตรียมน้ำร้อนปริมาณ 240 กรัม ตามอัตรส่วน 1:12 3. วางกระดาษกรองในที่ดริป แล้วรินน้ำร้อนผ่านเพื่อปรับอุณหภูมิอุปกรณ์ 4. นำเมล็ดกาแฟบดที่เตรียมไว้ใส่ในกระดาษกรอง 5. เทน้ำร้อนประมาณ 3 รอบในปริมาณที่พอเปียกกาแฟทั่วถ้วย   ช่วงแรก Pre-infusion: - รินน้ำจากกาลงบนผงกาแฟตรงกลาง แล้ววนออกด้านนอก ให้ผงกาแฟชุ่มน้ำ - ค่อยๆ หยดน้ำ และเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ - ใช้เวลาประมาณ 30-45 วินาทีแรก โดยน้ำจะยังไม่ค่อยไหลจากตัวกรอง   ช่วงกลาง: - เร่งความเร็วและแรงในการเทน้ำให้ได้ปริมาณน้ำมากที่สุด - น้ำกาแฟบนดริปเปอร์จะเป็นสีน้ำตาลทอง - ค่อยๆ หยดจนน้ำกาแฟที่ได้เริ่มเจือจางลง น้ำจะไหลเร็วขึ้น - ช่วงนี้ใช้น้ำประมาณ 150 มิลลิลิตร หรือจนถึงนาทีที่ 2   ช่วงท้าย: - เบามือลง หยดน้ำช้าๆ จนครบปริมาณ - สีน้ำกาแฟจะค่อยๆ เจือจางและใสขึ้น - ช่วงนี้อยู่ประมาณนาทีที่ 2-3 - ค่อยๆ เทน้ำร้อนลงไปทีละน้อย โดยเริ่มจากขอบวนเข้าหากลางในลักษณะวงกลม - ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีทั้งหมด 3 ช่วง ในการดริปจนหมดถ้วย เมื่อกาแฟไหลออกหมดแล้วก็สามารถรินสิ่งค้างใต้กรองด้วยน้ำร้อนได้   เทคนิคการดริปที่ถูกวิธี   - ควบคุมอุณหภูมิน้ำร้อนให้อยู่ระหว่าง 92-96 องศาเซลเซียส - การเทน้ำแบบเป็นวงกลมและสม่ำเสมอ จะทำให้น้ำกระจายตัวได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น - ยิ่งเทน้ำลงลงตรงไหน กาแฟส่วนนั้นก็จะโดนสกัดออกมามากที่สุด ดังนั้นจึงควรเทให้เท่าๆ กัน - ไม่ควรเขย่าหรือกดกาแฟในระหว่างดริป - หลังดริปเสร็จแล้ว ควรรินเศษกากด้านล่างออกให้หมด   เคล็ดลับและข้อควรระวังในการดริป   - ควรใช้น้ำร้อนที่สะอาด ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติแปลกปลอม - ปรับปริมาณน้ำและกาแฟให้เหมาะสมตามรสนิยมของตน - น้ำยิ่งร้อนยิ่งสกัดกาแฟออกมาได้เยอะ - คอยสังเกตเวลาและปริมาณในการดริป หากใช้เวลานานเกินไปกาแฟจะมีรสเปรี้ยว - ทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีคราบกาแฟค้างที่อาจทำให้รสชาติเปลี่ยนไป - ฝึกฝนบ่อยๆ จนเกิดความชำนาญ เทคนิคการดริปมีผลต่อรสชาติกาแฟมาก   ชวนให้ลองกาแฟดริปของพันธุ์ไทย 4 รสชาติ!     พันธุ์ไทยขอเชิญชวนให้เหล่าคอกาแฟดริป มาดื่มด่ำกับกาแฟอาราบิก้ากัน เพียงแค่ดริปกาแฟแบบง่ายๆ ที่บ้าน ก็จะได้สัมผัสกับรสชาติของกาแฟดริปพันธุ์ไทย x ดอยตุง กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ภายใต้โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เบลนด์พิเศษเพื่อพันธุ์ไทย จนได้รสชาติและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ชุดดริปกาแฟมือใหม่ มีทั้งหมด 4 รสชาติ ได้แก่   1. Dark Wood   กาแฟดริปจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าคั่วระดับเข้มที่เต็มไปด้วยรสชาติที่ชวนค้นหา จุดเด่นของมันก็คือรสชาติโทนดาร์กช็อกโกแลต เข้ม แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายโทนนัตตี้ และน้ำตาลทรายแดง เปรียบเสมือนการเดินทางในป่ายามค่ำคืน   2. Cedar Forest   กาแฟดริปจากกาแฟอาราบิก้าคั่วระดับกลาง ให้กลิ่นอายความสดชื่นของใบสนและสมุนไพร แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นช็อกโกแลต และน้ำตาลทรายแดง เปรียบเสมือนการเดินทางในป่าสนอันเขียวขจี   3. Tropical Fresh   กาแฟดริปจากกาแฟอาราบิก้าคั่วระดับกลาง ให้รสชาติหวาน ชุ่มฉ่ำคล้ายน้ำผลไม้ ซึ่งให้รสชาติของผลพลัม และความหวานจากคาราเมลที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เพิ่มความสดชื่นในการดื่มด่ำกาแฟ เปรียบเสมือนการเดินทางในป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์   4. Creamy Hills   กาแฟดริปจากกาแฟอาราบิก้าคั่วระดับกลางถึงเข้มที่มีรสสัมผัสนุ่มนวลชวนฝัน มีกลิ่นอายอัลมอนด์ คาราเมล ใครที่ชอบอัลมอนด์ถูกใจสิ่งนี้ เมื่อดื่มไปแล้วจะให้ความรู้สีกที่เบา สบาย เปรียบเสมือนการเดินทางบนเนินเขาที่อบอุ่น   พอรู้วิธีดริปกาแฟแบบละเอียดกันแล้ว ก็อยากหาซื้อกาแฟมาดริปที่บ้านเลยใช่ไหมล่ะ พันธุ์ไทยมีทั้งเมล็ดกาแฟคั่วและชุดกาแฟดริปแบบสำเร็จรูป ไม่ต้องยุ่งยากในการดริป เพียงแค่มีกาน้ำร้อนและแก้วน้ำ คุณก็สามารถดริปกาแฟดื่มเองได้ที่บ้าน แบบไม่ต้องเดินทางไปคาเฟ่อีกต่อไป สามารถดูรายละเอียดสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์พันธุ์ไทยและสามารถสั่งในแอปเดลิเวอรีได้แล้ววันนี้!   อ้างอิง: - วิธีการดริปกาแฟ (Drip Coffee) ศิลปะบนกาแฟ | Nestle Dolce Gusto - กาแฟดริป (Drip Coffee) เมนูชูโรง ตามต้นตำหรับคอกาแฟ - เจาะลึกกาแฟดริป (Drip Coffee) ฉบับเริ่มต้นทำตามได้ step by step!
อ่านต่อ
แจกพิกัด 10 ที่เที่ยวหน้าร้อนใกล้กรุงเทพ ไม่ต้องไปไกล ชิวได้ไม่ต้องค้างคืน
แจกพิกัด 10 ที่เที่ยวหน้าร้อนใกล้กรุงเทพ ไม่ต้องไปไกล ชิลได้ไม่ต้องค้างคืน   วันสงกรานต์ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ยังไม่มีแพลนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีที่ใกล้กรุงเทพฯ เพราะไม่อยากค้างคืน พันธุ์ไทยนอกจะมีเครื่องดื่มสดชื่นๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว เรายังขอเสนอ 10 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ฉบับวันเดย์ทริปในหน้าร้อน ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลก็สนุกได้ ไปเช็คอินตามลิสต์นี้กันเลย!   10 ที่เที่ยวหน้าร้อนใกล้กรุงเทพฯ ซัมเมอร์นี้ห้ามพลาด     1. เกาะแสมสาร ชลบุรี   หากพูดถึงเกาะขาม ในสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ชื่อของเกาะแสมสารก็จะตามมาด้วยตลอด เกาะแสมสาร เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เชิงธรรมชาติที่งดงามและได้รับความนิยม เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด ปะการังที่มีสภาพดี ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามและได้ใกล้ชิดกับความมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลได้อย่างเต็มที่   บนเกาะแสมสารนั้นมีหาดทรายที่สามารถลงเล่นน้ำและดำน้ำชมปะการังได้ถึง 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่ หาดเทียนและหาดลูกลม ซึ่งมีความงดงามแตกต่างกันไป นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการนั่งเรือท้องกระจกเพื่อชมปะการังและฝูงปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นได้อีกด้วย การเดินทางมาเที่ยวเกาะแสมสารจึงเป็นโอกาสอันดีในการได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติทางทะเล พร้อมทั้งได้พักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง     2. บางกระเจ้า สมุทรปราการ   สายธรรมชาติถูกใจสิ่งนี้ “บางกระเจ้า” เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบธรรมชาติ เพราะเป็นแหล่งพื้นที่สีเขียวที่สำคัญและเปรียบเสมือนปอดกลางใจกรุงให้กับคนกรุงเทพฯ ได้หายใจรับอากาศบริสุทธิ์ จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ของชาวกรุงเทพฯ   กิจกรรมยอดฮิตที่นิยมทำกันที่บางกระเจ้าคือ การปั่นจักรยานเที่ยวชมธรรมชาติและแวะเวียนไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในบริเวณนั้น อาทิ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง วัดพราหมณ์ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย และร้านกาแฟริมทางที่เปิดให้บริการระหว่างเส้นทางปั่นจักรยาน   การมาปั่นจักรยานท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่บางกระเจ้านอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย พร้อมกับได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของคนในพื้นที่นั้นผ่านการแวะเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างทาง ถือเป็นการผสมผสานความสนุกสนานเพลิดเพลินกับประโยชน์จากการออกกำลังกายได้อย่างลงตัว     3. ตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม   ตลาดน้ำอัมพวาเป็นหนึ่งในตลาดน้ำเก่าแก่และมีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งอยู่ใกล้กับวัดอัมพวันเจติยาราม มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าร้อยปีในฐานะแหล่งชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ   จุดเริ่มต้นของตลาดน้ำแห่งนี้มาจากความพยายามของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นในการอนุรักษ์วิถีชีวิตริมน้ำและสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยการผลักดันให้ตลาดน้ำแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว   เมื่อเวลาเย็นย่ำคืนจะมีตลาดเล็กๆ ตั้งขึ้นตามสองฝั่งคลอง มีร้านค้าเรียงรายจำหน่ายอาหารไทยโบราณ ขนม และสินค้าที่ระลึกแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีเรือล่องผ่านในคลองเพื่อขายอาหารไทย สตรีทฟู้ดและผลไม้สดให้แก่นักท่องเที่ยว   หนึ่งในไฮไลท์ของตลาดน้ำแห่งนี้คือ มีบริการนั่งเรือล่องชมวิถีชีวิตชาวบ้านตามริมคลองอัมพวาและลำคลองสายต่างๆ ที่หล่อเลี้ยงชุมชนมาช้านาน ด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายแบบวิถีชาวบ้านริมน้ำโบราณจึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย     4. ทุ่งทานตะวัน ลพบุรี   สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกทานตะวัน ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมของทุกปีถือเป็นช่วงเวลาทองที่นักถ่ายภาพต่างจับจังหวะไปเก็บภาพความสวยงามของทุ่งทานตะวันสีเหลืองอร่ามกันอย่างคับคั่ง โดยหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ จังหวัดลพบุรี   ลพบุรีได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองทานตะวัน" เนื่องจากมีทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่และสวยงามมากมายกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัด ยกตัวอย่างเช่น ทุ่งทานตะวันเขาจีนแล ทุ่งทานตะวันไร่ลุงจ๊อด และทุ่งทานตะวันบ้านหัวดง เป็นต้น ภาพของดอกทานตะวันเหลืองสดใสเรียงรายอย่างสวยงามคู่กับพื้นหลังเป็นเนินเขา หรือถ่ายคู่กับวิถีชีวิตของชาวนา นับเป็นรูปภาพที่สวยงามและแสนจะโรแมนติก เหมาะกับแพลนวันเดย์ทริป ใกล้กรุงเทพฯ     5. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี   น้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่น่าสนใจ เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เชิงธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในบรรดานักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่มากนัก   ไฮไลท์ของน้ำตกแห่งนี้คือ ประกอบด้วยชั้นน้ำตกขนาดเล็กถึง 7 ชั้น มีความสูงของแต่ละชั้นประมาณ 2-5 เมตร ทำให้สามารถเดินชมและสัมผัสกับความสวยงามของน้ำตกได้ตลอดเส้นทางที่ไม่ยาวนัก โดยใช้เวลาเดินเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้นก็จะครบทั้ง 7 ชั้นแล้ว   นอกจากจะได้ชมความงดงามของน้ำตกสายสั้นๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถลงเล่นน้ำในบริเวณที่มีแอ่งน้ำตื้นๆ ได้อย่างสนุกสนานและผ่อนคลายอีกด้วย โดยเฉพาะน้ำตกชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงและมีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสูงประมาณ 3 เมตร แอ่งน้ำมีขนาดพอที่จะให้ผู้มาเยือนได้ลงเล่นน้ำและพักผ่อนอย่างเต็มที่     6. หาดชะอำ เพชรบุรี   หากพูดถึงที่เที่ยวหาดใกล้กรุงเทพฯ “หาดชะอำ” เป็นหาดที่คนไทยพูดถึงกันมากที่สุด หาดชะอำ ตั้งอยู่ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นหนึ่งในชายหาดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ   หาดชะอำถือเป็นชายหาดที่มีความพร้อมสำหรับการท่องเที่ยว มีร้านอาหาร ที่พักบริการต่างๆ รวมถึงกิจกรรมทางน้ำและกิจกรรมกลางแจ้งมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานกันอย่างจุใจ   สำหรับกิจกรรมยอดนิยม เช่น การขี่ม้าตามแนวชายหาด ปั่นจักรยานรับลมเย็นๆ บานานาโบ๊ทหรือเจ็ตสกีสนุกสนานท่ามกลางท้องทะเล นอกจากนี้ ริมหาดยังมีจุดชมวิวและพื้นที่สำหรับถ่ายภาพสวยๆ เหมาะแก่การจัดงานปาร์ตี้ริมหาดหรือเพียงแค่มานั่งชิลล์ดูพระอาทิตย์ตกดินเบาๆ ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ     7. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง สุพรรณบุรี   “อ่างเก็บน้ำเขาวง” หรือที่รู้จักกันในนาม “ปางอุ๋งสุพรรณ” เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่สวยงามแห่งหนึ่ง   ด้วยบรรยากาศอันงดงามและสดชื่น โดยเฉพาะในช่วงเช้ามืดจะมีหมอกบางๆ ปกคลุมท้องน้ำและเนินเขา สร้างบรรยากาศคล้ายกับปางอุ๋งที่แม่ฮ่องสอน ทำให้เป็นมุมสวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศเป็นที่ระลึก   นอกจากนี้ภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขาวงยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์หลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร ทั้งการล่องแพชมธรรมชาติ กางเต็นท์พักแรมแคมป์ปิ้ง หรือแม้แต่การท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบชนบทอันสงบ และผ่อนคลายไปกับธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม     8. น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี   หน้าร้อนแบบนี้ ก็ต้องไปเล่นน้ำที่น้ำตกเอราวัณสิ น้ำตกเอราวัณ ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียง เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยมที่ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณื ด้วยน้ำตกสีเขียวมรกตที่งดงามตระการตา   น้ำตกเอราวัณประกอบด้วยชั้นน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามและมีแอ่งน้ำให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำเพลิดเพลิน สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด น้ำตกแห่งนี้จึงดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย   นอกเหนือจากการเล่นน้ำชมน้ำตกแล้ว ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ผ่านป่าดิบเขาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยนำเที่ยวและให้ความรู้เพื่อความปลอดภัย     9. อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา อยุธยา   อะเมซิ่งไทยแลนด์จะขาดอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาไปไม่ได้เลย อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 3,000 ไร่ และในปีพ.ศ. 2534 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดย UNESCO ทำให้อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้เป็นที่นิยมของที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติ   ภายในพื้นที่นี้ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญมากมาย ภายในกำแพงเมืองมีพระราชวังโบราณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดมหาธาตุ และวิหารมงคลบพิตร ส่วนนอกกำแพงเมืองก็ยังมีวัดวาอาราม และโบราณสถานอื่นๆ อีกมากมาย เช่น วัดไชยวัฒนาราม วัดช้าง วัดจักรวรรดิ์ วัดภูเขาทอง วัดมเหยงคณ์ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ให้เห็นถึงร่องรอยอารยธรรมของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน และควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้     10. วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา   สายมูห้ามพลาด มากราบไหว้ขอพรพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกันเถอะ พระพิฆเนศองค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา ตัวองค์เทพมีเนื้อเป็นสีชมพู วิจิตรงดงามและสูงใหญ่มาก สูงถึง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตรเลยทีเดียว และรอบฐานมีพระพิฆเนศปางต่างๆ อีก 32 ปางให้ได้เดินชมรอบฐานกัน   นอกจากพระพิฆเนศ ภายในวัดยังมีพระบรมสารีริกธาตุในดอกบัวกลางน้ำอันวิจิตรงดงาม อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้วยกันถึง 10 องค์ด้วยกันที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพร ไม่ว่าจะเป็นพระพิฆเนศ ปางปาฏิหาริย์ 108 กร พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานบุตร หลวงพ่อโต พระประธานในอุโบสถ หลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อประทานพร ช้างเอราวัณ พระราหู ท้าวมหาพรหม และจระเข้โหราเทพารักษ์ บอกเลยว่าสายมูขอพรสักการะกันได้แบบจุกๆ ได้บุญกลับไปเพียบ   เป็นอย่างไรกันบ้างกับที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ฉบับวันเดย์ทริปจากพันธุ์ไทย หวังว่าทุกคนจะได้ไปเช็คอินตามที่เที่ยวหน้าร้อนใกล้กรุงเทพฯ 1 วัน สามารถติดตามอ่านบทความไลฟ์สไตล์ดีๆ แบบนี้ได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย และสำหรับใครที่อยากดับร้อน เพราะหน้าร้อนประเทศไทยร้อนเหลือเกิน นอกจากจะเล่นน้ำวันสงกรานต์คลายร้อนแล้ว อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มพันธุ์ไทยเพื่อเพิ่มความสดชื่นบนเว็บไซต์พันธุ์ไทยหรือสั่งในแอปเดลิเวอรีได้เลย!   อ้างอิง: - 35 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ งบไม่เกินพัน 2567 ที่เที่ยวงบประหยัด ก็ฟินได้! - 15 ที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ ใกล้กรุงเทพ บรรยากาศดี สดชื่น สายกรีนต้องไปชิล
อ่านต่อ
แจกไอเดียเมนูอาหารเช้า จับคู่กับกาแฟแก้วโปรด
แจกไอเดียเมนูอาหารเช้า จับคู่กับกาแฟแก้วโปรด   อาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ เป็นมื้อโปรดสำหรับหลาย ๆ คน เชื่อว่าคงมีเมนูอาหารเช้าสุดเลิฟที่ตัวเองชื่นชอบ กินพร้อมกาแฟดีๆ อีกสักแก้ว เพื่อบูสต์พลังยามเช้าให้สดใส พร้อมไปใช้ชีวิตกันต่อแบบเต็มพิกัด! แต่ว่า.. ในบางครั้งมันก็คงจะมีอารมณ์คิดไม่ออก ประมาณว่า “เช้านี้ เราจะกินอะไรดีนะ?” วันนี้พันธุ์ไทยจึงได้เตรียมไอเดียอาหารเช้าง่ายๆ ที่กินกับกาแฟแล้วเข้ากันอย่างลงตัวมาให้เรียบร้อยแล้ว จะมีเมนูอะไรบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า   ไข่กระทะร้อนๆ ทำง่ายได้ประโยชน์ อาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ อเมริกาโนร้อน     เริ่มกันที่เมนูอาหารเช้าสุดคลาสสิคแบบ ไข่กระทะ ทั้งอร่อย ทำกินเองง่าย ใช้เวลาเตรียมวัตถุดิบไม่นาน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะโปรตีนจากไข่ไก่และหมูสับ วิตามินจากผักและผลไม้ต่างๆ ช่วยเพิ่มพลังยามเช้าได้เป็นอย่างดี   ซึ่งจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าหากจับคู่กับอเมริกาโนร้อนๆ หอมละมุนมีเอกลักษณ์ และเข้มข้นในสไตล์ของพันธุ์ไทย เป็นตัวเลือกปลุกพลัง รวมทั้งได้ดื่มด่ำรสชาติกาแฟอย่างแท้จริง นอกจากนี้ อเมริกาโนร้อน ยังมีประโยชน์อีกหลากหลาย ทั้งแคลอรี่ต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้สมองตื่นตัว รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า บอกเลยว่าไม่มีอะไรจะเข้าคู่กันกับเมนูอาหารเช้า ไทยแบบไข่กระทะไปมากกว่านี้แล้วล่ะ!   สูตรไข่กระทะเติมพลัง อาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ อเมริกาโนร้อน    1. ผัดหมูสับ ไส้กรอก เบคอน หมูยอ และปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ จากนั้นนำมาพักแยกไว้ 2. ลวกแครอท มะเขือเทศ หรือผลไม้อื่นๆ จากนั้นพักแยกไว้ 3. เริ่มทอดไข่ไก่ เมื่อไข่ไก่เริ่มสุก ให้จัดเรียงวัตุดิบที่พักไว้ลงบนไข่ไก่ในกระทะ 4. โรยต้นหอม พริกไทย ตกแต่งเพิ่มความสวยงาม เพียงเท่านี้ก็ได้ไข่กระทะสุดปัง เมนูอาหารเช้า ไทยพร้อมเสิร์ฟคู่กับอเมริกาโนร้อนเข้มๆ เพื่อเพิ่มพลังอย่างเต็มที่แล้ว     โจ๊กหมูใส่ไข่สุดฟิน อาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ พันธุ์ไทย คอฟฟี่เย็น   มาต่อกันที่ โจ๊กหมูใส่ไข่ อีกเมนูอาหารเช้าอมตะ หาซื้อง่าย เหมาะกับชั่วโมงเร่งด่วนยามเช้าที่ต้องรีบเดินทาง ฝ่ารถติด ไปทำงาน ไปโรงเรียน หรือไปทำธุระอะไรก็ตาม ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้กินโจ๊กร้อนๆ ที่หอมละมุนกลมกล่อม และมีไข่แดงสวยๆ ให้เจาะเพิ่มความฟิน~   บวกกับการดื่มกาแฟซิกเนเจอร์ พันธุ์ไทย คอฟฟี่เย็น ได้รสกาแฟอาราบิก้าเข้มๆ ผสานกับนมสดสุดนัว สูตรเฉพาะของพันธุ์ไทย รับประกันความกลมกล่อมเข้ากันเป็นอย่างดี แถมเครื่องดื่มเย็นๆ แบบนี้ยังเหมาะกับสภาพอากาศไทยอันร้อนระอุสุดๆ ด้วยนะ   ในกรณีที่อยากทำโจ๊กหมูใส่ไข่ด้วยตัวเอง เพราะอยากเตรียมเมนูอาหารเช้าง่ายๆ ได้ประโยชน์ พันธุ์ไทยก็ได้เตรียมสูตรเด็ดทำตามง่ายๆ มาให้อีกเช่นกัน เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลย   สูตรโจ๊กหมูใส่ไข่ เมนูอาหารเช้าง่ายๆ อร่อยจนใจฟู     1. ต้มน้ำให้เดือด และใส่ซุปก้อนลงไป 2. ใส่ก้อนหมูสับลงไป รอจนกว่าหมูจะสุก เมื่อสุกแล้วให้ตักออกมาพักไว้ 3. ใส่ข้าวลงไปต้มในน้ำซุป คนเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที 4. เมื่อข้าวสุกนำหมูใส่ลงไป ตามด้วยไข่ไก่ 5. เติมซอสหรือเครื่องปรุงรสอื่นๆ ตามใจชอบ ทานพร้อมพันธุ์ไทย คอฟฟี่เย็น     ครัวซองต์หอมกรุ่น อาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ สามทหารเสือเย็น   เอาใจสายฝอกันบ้าง กับเมนูอาหารเช้าจากประเทศฝรั่งเศส ด้วยขนมปังสุดฮิตอย่าง ครัวซองต์กรอบๆ หอมกรุ่นฉ่ำเนย เรียกได้ว่าเป็นเบเกอรีที่จริงใจ เอาไปประยุกต์สอดไส้กับไข่ข้น แฮม หรือมอสซาเรลล่าชีส ใดๆ ก็ตามแต่ คือเข้ากันไปหมด อีกอย่างเป็นเมนูที่พกไปกินระหว่างทางสะดวกมากๆ ตอบโจทย์คนมีเวลาน้อยที่สุด เลิศเต็ม 10 ไม่มีหัก   เมื่อเอามาทานคู่กับกาแฟสามหารเสือเย็น ที่มีส่วนประกอบจากกาแฟอาราบิก้ารสเข้ม นมสด และช็อกโกแลต ซึ่งมีความเข้มข้น หอมหวาน ไม่กลบรสชาติกันและกัน ก็จะกลายเป็นมื้อเช้าที่ดีงามอย่างถูกต้อง แถมเข้ากันกับเมนูอาหารเช้าง่ายๆ อย่างครัวซองต์ที่สุด   แต่จะกินครัวซองค์เนยสดเพียงอย่างเดียว บางทีก็ได้สารอาหารไม่ครบ ด้วยความที่เมนูอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน ดังนั้นพันธุ์ไทยขอเสนอไอเดียจับคู่ครัวซองค์กับส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมไปให้ด้วยนะ ซึ่งก็เป็นส่วนผสมที่หาซื้อง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก นำไปใส่เพิ่มความอิ่มอร่อยให้เมนูอาหารเช้าง่ายๆ ได้ประโยชน์ขั้นสุด แถมเข้ากับกาแฟสามทหารเสือเย็นอีกด้วย มาดูหน้าครัวซองต์ต่างๆ กัน     ไอเดียครัวซองต์สุดยั่วสารพัดหน้า เข้ากับกาแฟพันธุ์ไทย   1. ครัวซองต์แฮมชีส 2. ครัวซองต์ไข่ข้น+มะเขือเทศ 3. ครัวซองต์แซลมอน+อะโวคาโด 4. ครัวซองต์สลัดทูน่า+ไข่ต้ม 5. ครัวซองต์ไส้กรอกเบคอนชีส     แพนเค้กนุ่มละมุน อาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ โตนดเย็น   สายหวานต้องรักสิ่งนี้ เพราะนี่คืออาหารเช้ากินคู่กับกาแฟแบบชาวตะวันตกที่ลงตัวกันอย่างถูกต้อง นั่นก็คือ แพนเค้กนุ่มๆ หอมหวาน กับกาแฟโตนดเย็นจากทางพันธุ์ไทยนั่นเอง! เป็นอีกเมนูรองท้องเบาๆ ยามเช้า ที่อร่อยฟินไม่ไหว เจ้าแป้งแพนเค้กสุดละมุนสามารถเข้ากับหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดี จับคู่กับของคาวก็ปัง จับคู่กับของหวานก็จึ้ง สรุปคือเลิศไปหมด ถูกต้องทุกอย่าง ทำแต่ละครั้งกินกันได้ทั้งบ้าน โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็กๆ รับรองว่าต้องถูกใจพวกเขาแน่นอน   และจะขาดฮีโร่ตัวเด็ดที่เข้ามาเสริมให้เมนูอาหารเช้าแบบแพนเค้กอร่อยกลมกล่อมขึ้นไม่ได้ ซึ่งก็คือกาแฟโตนดเย็น ที่มีกาแฟเข้มๆ และเพิ่มความหวานจากตาลโตนด หวานกลมกล่อมกำลังดี ไม่มีเลี่ยนสไตล์ไทยๆ แต่อย่าพึ่งคิดว่าจะเหมาะกับแพนเค้กซึ่งเป็นอาหารสไตล์ตะวันตกไหม? ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่เพราะภาพรวมของกาแฟตโนดเย็นนั้นเข้มข้นหวานมันละมุนเข้ากันกับแพนเค้กมากกว่าที่คิด   เช่นเดียวกับครัวซองต์จะกินแต่แป้งแพนเค้กก็ไม่สะใจพอ มาเติมส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมกัน ปรับใช้จากไอเดียด้านล่างนี้ได้ตามใจชอบเลยน้า   ไอเดียแพนเค้กอร่อยล้ำ ฟินฉ่ำยามเช้า   1. แพนเค้กไข่ดาว+ไส้กรอก 2. แพนเค้กเบคอนชีส 3. แพนเค้กครีมสตรอว์เบอร์รีย์ 4. แพนเค้กเนื้อบด+มะเขือเทศ 5. แพนเค้กกล้วย+นูเทลล่า     เป็นอย่างไรกันบ้าง กับอาหารเช้ากินคู่กับกาแฟ ที่พันธุ์ไทยเตรียมมาให้ทุกคนในวันนี้ เป็นเมนูที่หาซื้อง่าย หรือจะทำกินเองก็สบายสุดๆ ไปเลยใช่ไหม? ประเด็นสำคัญคือห้ามลืมทานมื้อเช้ากันเด็ดขาดเลยนะ เพราะนี่เป็นสิ่งสำคัญ ต้องเริ่มต้นวันด้วยการเติมสิ่งดีๆ เข้าร่างกาย   แน่นอนว่าขอฝากเมนูกาแฟพันธุ์ไทยแก้วโปรดไปดื่มลิ้มรสคู่กับอาหารเช้าง่ายๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ดีๆ ยามเช้าให้เพอร์เฟกต์อย่างลงตัวกันด้วยนะทุกคน   สามารถสั่งซื้อ เมนูกาแฟพันธุ์ไทย  แก้วโปรดได้ที่ร้านพันธุ์ไทย และแอปเดลิเวอรีส่งถึงบ้านได้เลย
อ่านต่อ
ทายนิสัยจากเมนูกาแฟแก้วโปรด
รู้ไหมว่า กาแฟบอกนิสัยของเราได้นะ      สำหรับคอกาแฟ ที่ต้องเติมพลังด้วยเครื่องดื่มคาเฟอีนแก้วโปรดในทุก ๆ วันแล้ว ทุกคนคงมีเมนูกาแฟ หรือรสชาติของเมนูกาแฟที่ชอบดื่มเป็นประจำ อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่า คาเฟอีนจากกาแฟช่วยกระตุ้นความสดชื่น ปลุกความตื่นตัวในตอนเช้าได้ หรือบางคนก็ชอบกลิ่นหอมเข้มของกาแฟ ขอแค่ได้นั่งลิ้มรสกาแฟไปพร้อมกับสัมผัสกลิ่นหอม ๆ ภายในร้านไปด้วยก็พอ   มาเริ่มเกมทายใจ ทายนิสัยจากกาแฟ กัน   แน่นอนว่าเครื่องดื่มที่เราดื่มนั้นสามารถทายบุคลิก หรือทายนิสัยจากกาแฟที่ดื่มกันทุกวันได้ ไม่จะว่าเป็นความเข้มข้นของกาแฟ ส่วนผสมของเครื่องดื่ม หรือรสชาติที่เน้นไปในเรื่องความกลมกล่อม บ้างก็เน้นที่ความเข้มข้น ความหอมไม่กลบกลิ่นกาแฟ วันนี้มาดูกันว่า เมนูกาแฟที่เราชอบจะทายนิสัย สะท้อนตัวตนของเราออกมาได้ตรงกับนิสัยมากแค่ไหน มาดูกัน     ทายนิสัยจากกาแฟ อเมริกาโนเย็น   ผู้ที่ชื่นชอบอเมริกาโนเย็น แปลว่าเป็นคนที่ใจเย็น มีความหนักแน่นในเหตุผล มีความรับผิดชอบสูง มีแบบแผนการทำงานที่แน่นอน และมั่นใจในตัวเองสูง มีความเป็นผู้นำ จากการทายนิสัยจากกาแฟ คุณเป็นคนที่ใช้เหตุผลในการจัดการเรื่องต่าง ๆ มากกว่าอารมณ์ ทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพ จึงทำให้ใคร ๆ ก็ยอมรับในความสามารถของคุณ   ทายนิสัยจากกาแฟ พันธุ์ไทย คอฟฟี่เย็น   พันธุ์ไทย คอฟฟี่เย็น สุดเข้มข้นและกลมกล่อมด้วยส่วนผสมอย่าง “กาแฟและนมสด” สูตรเฉพาะของพันธุ์ไทย สามารถทายนิสัยจากกาแฟได้ว่า คนที่ชอบกาแฟเข้มข้น มีกลิ่นหอมกลมกล่อมอันเป็นเอกลักษณ์นั้น เป็นคนตรงไปตรงมา จริงจัง จริงใจ แน่วแน่กับเป้าหมายของตนเอง รักที่จะทำงานหนักเพื่อที่จะได้มาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ชอบหาประโยชน์จากใคร และจะไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบ จากการทายนิสัยจึงตามมาด้วยความรอบคอบถึงจะดูเป็นคนซีเรียส แต่ก็เป็นคนอัธยาศัยดีต่อคนรอบ ๆ ตัว และปรับตัวเข้ากับคนรอบข้างได้ง่าย   ทายนิสัยจากกาแฟ สามทหารเสือเย็น   เข้มสะใจไปกับ “กาแฟ นมสด ช็อกโกแลต” ได้รสชาติเข้มข้นและหอมหวานแบบเต็ม ๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟ ผสมนม และช็อกโกแลตนี้ สามารถทายนิสัยจากกาแฟได้ว่า เป็นคนอัธยาศัยดี เฟรนด์ลี่สุด ๆ และเข้ากับคนอื่นได้ง่าย รักอิสระ ชอบความตื่นเต้นในชีวิต และเป็นคนแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา ทายนิสัยจากกาแฟได้ว่าเป็นคนดื้อเงียบ โกรธง่ายหายเร็ว และไม่มีความโรแมนติกใด ๆ เนื่องจากจะติดขี้เล่นไปสักหน่อย   ทายนิสัยจากกาแฟ ลาเต้เย็น   ถ้าคุณชอบกาแฟลาเต้เย็น เราขอทายนิสัยจากกาแฟรสละมุนนี้ว่า คุณเป็นที่มีเสน่ห์ ละเอียดอ่อน ปากหวาน ชื่นชอบให้ชีวิตมีสีสัน มีความคิดสร้างสรรค์สุด ๆ ทำให้เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ในกรอบ ชอบมีไอเดียแหวกแนวที่ทำให้คนอื่นประหลาดใจอยู่เสมอ แต่กระนั้น จากการทายนิสัยจากกาแฟ ข้อเสียของคุณคือ คุณอาจจะมีมุมที่ขาดความมั่นใจหากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย และแม้จะช่างคิดแต่เป็นคนโลเล ไม่เด็ดขาด ชอบอยู่ในเซฟโซนของตัวเอง จึงไม่กล้าแสดงออกมากนักและคนที่อ่อนไหวง่าย   ทายนิสัยจากกาแฟ พันธุ์ไทย ไชโยเย็น   ผู้ที่ชื่นชอบเมนูกาแฟ พันธุ์ไทย ไชโยเย็น คือความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างกาแฟเข้มข้น และนมสดกลมกล่อม ทายนิสัยจากกาแฟได้ว่า ถ้าคุณชอบกาแฟพันธุ์ไทย ไชโยเย็น แปลว่าคุณเป็นคนที่มีความอบอุ่น โรแมนติก ในขณะเดียวกันก็เป็นคนชัดเจน ซื่อตรง และซื่อสัตย์เสมอ แต่คุณไม่ใช่คนเคร่งขรึม กลับเป็นคนสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนรอบตัวอยู่เสมอ เข้าสังคมเก่งและชอบการพบปะพูดคุยพอสมควร   ทายนิสัยจากกาแฟ โตนดเย็น   กาแฟเข้ม ๆ ผสานความหอมหวาน ละมุนจากตาลโตนด สามารถทายนิสัยจากกาแฟโตนดเย็นได้ว่า คุณเป็นคนอนุรักษ์นิยมตัวยง รักนวลสงวนตัว มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่โอนอ่อนต่อกระแสสังคม ชอบของสไตล์วินเทจ มีสไตล์เป็นของตัวเอง ไม่ไหลไปตามกระแสสังคมง่าย ๆ ทายนิสัยจากกาแฟ ได้ว่า คุณเป็นคนใช้ชีวิตในกรอบ และกฎเกณฑ์ เป็นคนที่มีชีวิตเป๊ะ ทำอะไรตามระเบียบเสมอ สำหรับคอกาแฟที่อ่านทายนิสัยจากกาแฟแล้วรู้สึกว่าตรงกับนิสัยตัวเอง อย่าลืมแบ่งปันให้เพื่อนๆ แฟนคลับกาแฟพันธุ์ไทยด้วยกันมาลองเล่นกันนะและอย่าลืม คิดถึงเมนูกาแฟ อย่าลืมคิดถึง กาแฟพันธุ์ไทย นะ   อ้างอิง https://www.lifestyleasia.com/bk-th/astrology/latest/personality-from-coffee-you-like/https://www.sanook.com/campus/1412539/https://thethaiger.com/th/news/875107/http://pitbullcoffee.com/index.php?route=extension/module/knowledge/detail&knowledge_id=59
อ่านต่อ
เพราะบุคลากรทางการแพทย์ เป็นด่านหน้าที่ดูแลรักษาคนไข้ด้วยความเสียสละ
เพราะบุคลากรทางการแพทย์ เป็นด่านหน้าที่ดูแลรักษาคนไข้ด้วยความเสียสละ เราจึงอยากเติมเต็มและดูแลคุณภาพชีวิตบุคลากรให้ ‘อยู่ดี มีสุข’ เช่นกัน   คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด บริจาคเงิน 500,000 บาท สมทบกองทุนสวัสดิการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อส่งเสริมด้านสวัสดิการและดูแลสวัสดิภาพของบุคลากรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมี พลตรี ธำรงโรจน์ เต็มอุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นผู้รับมอบ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ถนนราชวิถี
อ่านต่อ
สร้างอาชีพ ปั้นบาริสต้า กับกาแฟพันธุ์ไทย
ในขณะที่เด็กๆ ทั่วไป ตั้งตารอคอยฉลองกิจกรรมวันเด็กด้วยความสนุกสนาน ยังมีเด็กและเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่รอคอยการกลับมาอยู่กับครอบครัวและดำเนินชีวิตในสังคมอย่างปกติสุข   นับเป็นอีกก้าวครั้งสำคัญที่ กาแฟพันธุ์ไทย ในนามของ พีทีจี ได้ส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย "อยู่ดีมีสุข" โดยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ในโครงการ “สร้างอาชีพ ปั้นบาริสต้า กับกาแฟพันธุ์ไทย” เพื่อร่วมกันมอบโอกาสให้เด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลฯ ได้เรียนรู้ ฝึกฝน ทักษะการประกอบอาชีพผ่านการปฏิบัติงานจริง สามารถก้าวสู่การเป็นบาริสต้าที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไป
อ่านต่อ
ชาวกรุงเทพกรีฑา ไม่มาไม่ได้หนา!! กาแฟพันธุ์ไทย สาขาซัสโก้ หมู่บ้านนักกีฬา เปิดให้บริการแล้ววันนี้!!
ชาวกรุงเทพกรีฑา ไม่มาไม่ได้หนา!! กาแฟพันธุ์ไทย สาขาซัสโก้ หมู่บ้านนักกีฬา เปิดให้บริการแล้ววันนี้!!   แวะมาเติมความสดชื่นกับเครื่องดื่มแก้วโปรด อิ่มอร่อยกับขนม เบเกอรีมากมาย ในบรรยากาศสบายๆ พร้อมบริการฟรี WiFi และที่จอดรถ สะดวกครบจบในที่เดียว นอกจากนี้ยังมีบริการจัด Snack Box สำหรับงานอีเวนท์ต่างๆ และบริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้านอีกด้วย เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ปักหมุดพิกัดนี้เลย คลิก   ย่านอื่นๆ ก็ไม่ต้องน้อยใจ พี่ไทกำลังเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมันซัสโก้ อีก 4 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งซัสโก้ สุขาภิบาล 2, ซัสโก้ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, ซัสโก้ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และซัสโก้ ท่าจีน จ.สมุทรสาคร ใครใกล้ที่ไหน ก็แวะไปได้เลย พี่ไทรอต้อนรับอยู่นะคร้าบ
อ่านต่อ
punthai drip coffee event
PUNTHAI Coffee dripping in the park
พี่ไทนำภาพบรรยากาศงาน ‘PUNTHAI Coffee dripping in the park’ มาฝากครับ งานชิลๆ ในสวนใจกลางเมือง ที่นอกจากจะได้เปิดตัว ‘9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย’ คอลเลกชันพิเศษ เป็นที่แรกแล้ว ยังได้ Workshop กับ 5 ใน 9 นักสร้างสรรค์กาแฟแถวหน้าของเมืองไทยอย่างใกล้ชิด ดริปกันให้ชิมสดๆ ในงาน ได้เรียนรู้เส้นทางอนุรักษ์ธรรมชาติของทั้ง 9 ท่านผ่านแกลลอรีสวยๆ ชมการวาดภาพสีน้ำด้วยกาแฟจาก อ.ทศพร เพลิดเพลินกับเสียงเพลงอคูสติกยามเย็น และกิจกรรมอีกมากมาย พี่ไทหวังว่าทุกคนจะได้สนุกกัน ส่วนงานหน้าจะเป็นอะไร รอติดตามกันได้เลยนะคร้าบ   ‘PUNTHAI Coffee dripping in the park’ จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. 66 เวลา 09:30 - 19:00 น. ที่ผ่านมา ณ Park Silom (BTS ศาลาแดง/MRT สีลม)
อ่านต่อ
PUNTHAI Coffee dripping in the park
คอฟฟี่เลิฟเวอร์ เตรียมตัวให้พร้อมกับงาน ‘PUNTHAI Coffee dripping in the park’ งานที่อยากชวนทุกคนมา สนุกกับเรื่องราว และ เส้นทางแห่งความยั่งยืนของกาแฟพันธุ์ไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่ ‘คุณภาพ’ แต่ยังดีกับทั้งคุณ... และ ‘(ภู) เขา’   เพราะ พันธุ์ไทยจับมือกับ 9 นักสร้างสรรค์กาแฟชื่อดัง ร่วมกันบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนด้วยหัวใจ นำเสนอเป็น 9 กาแฟรักษ์โลก กาแฟดริปคอลเลกชันพิเศษ เพราะ อยากให้คนไทยได้ดื่มกาแฟที่ดีต่อโลกและดีต่อคุณที่สุด   งานชิลๆ ที่อยากให้คุณมาดื่มด่ำ เพราะอยากให้มาลิ้มลองความกลมกล่อม กลิ่นหอมละมุนของกาแฟไทยแท้ๆ ท่ามกลางบรรยากาศในสวนใจกลางเมือง โดยงาน ‘PUNTHAI Coffee dripping in the park’ จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. 66 เวลา 09:30 - 19:00 น. ที่ Park Silom (BTS ศาลาแดง/MRT สีลม)   งานกาแฟไทยดีๆ ‘คุณภาพCUPแก้ว’ ที่อัดแน่นไปด้วย 6 โซนกิจกรรม ที่จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวของ 9 กาแฟดริปชั้นดีและเส้นทางสีเขียวธรรมชาติ พร้อมไฮไลท์สุดพิเศษ ที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น   Grand Opening of Punthai Drip Coffee เปิดตัว กาแฟดริปพันธุ์ไทย คอลเลกชันรักษ์โลกสุดพิเศษ ที่พันธุ์ไทย ร่วมมือกับ 9 นักสร้างสรรค์กาแฟอนุรักษ์ท้องถิ่น ที่ปลูกกาแฟทุกเมล็ดด้วยความรักธรรมชาติจนเกิดเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมเปิดพรีออร์เดอร์แบบครบเซ็ต ให้คอกาแฟได้จับจองความลิมิเต็ดอิดิชันก่อนใคร Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น   The Gallery of ‘Coffee is The Story’ จากเมล็ดกาแฟทั้ง 9 ดอย ที่ปลูกด้วยความใส่ใจ นำไปสู่เรื่องราวอันแสนประทับใจที่น่าเล่า ผ่านแกลลอรีที่รวบรวมความตั้งใจในการปลูกกาแฟทุกเมล็ด ไม่ใช่เพื่อธุรกิจ แต่เพื่อผืนป่าที่เขียวขึ้น และขยายต่อความออร์แกนิกนี้ ผ่านเสียงธรรมชาติที่ถูกจัดเตรียมไว้ เพียงแสกน QR CODE ก็สามารถสัมผัสเสียง ASMR ที่เป็นเอกลักษณ์จาก 9 ดอยนั้นๆ แถมยังดาวน์โหลดเก็บไว้ รับฟังบน Spotify ฮีลใจต่อได้ทุกเวลา   Punthai Dripping Coffee Workshop from 5 Coffee Masters มือใหม่ หรือ มือเก๋า คอกาแฟ ก็สามารถมาเรียนรู้ วิธีดริปกาแฟจาก 5 นักสร้างสรรค์กาแฟได้ไม่ยาก หรือ ถ้าเรียกให้ถูก 5 Coffee Masters ผ่าน Punthai Dripping Coffee Workshop เรียนรู้ในการดริปกาแฟ และ ชิมฝีมือดริปกาแฟจาก 5 มือวางอันดับต้นๆ ของไทย อย่างใกล้ชิด   Art that Love the World เพลิดเพลินกับงานศิลปะจากภาพวาดด้วย ’กาแฟ’ งานศิลปะที่อยากให้โลกสวยมากขึ้น ชมการรังสรรค์ภาพวาดด้วยกาแฟจาก อาจารย์ ทศพร จันทรสุข ศิลปินมือรางวัลสีน้ำชื่อดัง แทนที่จะใช้สีพิมพ์ Ink แบบปกติ เราใช้ ’น้ำกาแฟ’ แทน เพื่อภาพที่ออกมาจะต้องไม่สร้างขยะให้โลก   Live Music Session ปล่อยจอยกับธรรมชาติในเมือง พลางดื่มกาแฟดริปไปเพลินๆ ด้วยการฟังเสียงดนตรี Acoustic แบบสดๆ เอนหลังฟังชิลๆ ให้โอกาสตัวของคุณได้พัก... พักดื่มกาแฟพันธุ์ไทย และ ปล่อยความคิดไปกับสายลมและเสียงเพลง   Exclusive Interview from 5 Thai Coffee Processor​s x Punthai ความพิเศษที่หาจับได้ยากกับงานเสวนาของนักสร้างสรรค์กาแฟทั้ง 5 ท่าน ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ด้วยสองมือและหัวใจ ที่ไม่เพียงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ แต่ยังดูแลป่ารักษาธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน ตรงกับ DNA ของพันธุ์ไทย ที่ไม่ได้มอง  ‘กาแฟเป็นแค่ธุรกิจ’ แต่มองว่า ‘ทุกครั้งที่ดริป สามารถช่วย ชุบชีวิตให้ผืนป่า’ ได้เช่นกัน   ใครไม่อยากพลาดไฮไลท์สำคัญ เคลียร์คิวให้พร้อม มาปล่อยจอย จิบ 9 กาแฟดริปพันธุ์ไทย ในสวนใจกลางเมือง ในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. 66 เวลา 09:30 - 19:00 น. ที่ Park Silom (BTS ศาลาแดง/MRT สีลม)   สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Inbox เพจพันธุ์ไทย #PunthaiCoffeedrippinginthepark #Punthaidripcoffee #กาแฟดริปพันธุ์ไทย
อ่านต่อ
พันธุ์ไทยพาคู่รักเที่ยวเทศกาลบอลลูนนานาชาติ
ใครอยากไปดูบอลลูนที่สิงห์ปาร์คเชียงรายห้ามพลาด    พันธุ์ไทยพาคู่รักเที่ยวเทศกาลบอลลูนนานาชาติ เพียงถ่ายรูปคู่สุดอร่อยกับเมนูเวรีมัทฉะพร้อมคนรู้ใจ (คู่รัก/เพื่อน/พี่น้อง/ครอบครัว) แล้วบอกเหตุที่อยากจะไป International Balloon Fiesta ที่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย 10 คอมเมนต์ถูกใจกรรมการรับฟรี แพ็กเกจ Punthai Exclusive Tour "Singha Park Chiangrai International Balloon Fiesta 2024” วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ไปเลย   กติการ่วมสนุก ถ่ายรูปคุณคู่กับคนรู้ใจ (เพื่อน / แฟน / ครอบครัว) พร้อมเมนูมัทฉะพันธุ์ไทยที่คุณชอบ  โพสต์ภาพในคอมเมนต์ใต้โพสต์กิจกรรม พร้อมแคปชันบอกเหตุผล “ทำไมถึงอยากไป International Balloon Fiesta 2024”  ภาพและคอมเมนต์ของใครโดนใจกรรมการ รับรางวัลไปเลย  ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2567 - 4 กุมภาพันธ์ 2567    รายละเอียดของรางวัล  Package Punthai Exclusive Tour "Singha Park Chiangrai International Balloon Fiesta 2024”  มูลค่ารางวัลละ 5,300 บาท (รางวัลละ 2 ท่าน) จำนวน 10 รางวัล ประกอบไปด้วย บัตรเข้าชมงานวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 มูลค่า 200 บาท/วัน/คน  ฟาร์มทัวร์ 150 บาท/คน/รอบ  อาหารและเครื่องดื่มที่ร้านภูภิรมย์ 1,200 บาท/คน  บัตรเข้าร่วมกิจกรรมภายในงาน    1.) ซิปไลน์ 300บาท/คน/รอบ     2.) ขับรถ ATV  800 บาท/คน/รอบ หรือ E-Scooter 300 บาท/คน/รอบ หรือ จักรยานไฟฟ้า 300 บาท/คน/รอบ *ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน รถ และ ที่พัก —————————————————————————  *ประกาศผลผู้โชคดี วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าเพจเฟสบุ๊ก PunThai Coffee โดยผู้ได้รับรางวัลจะต้องยืนยันสิทธิ์มาทางอินบ๊อกซ์ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567
อ่านต่อ
พี่ไทชวนเพื่อนตาดีมาเล่นเกม ‘Spot The Bad Beans’ กัน เมล็ดกาแฟดริปคอลเลกชันพิเศษของพันธุ์ไทย
พี่ไทชวนเพื่อนตาดีมาเล่นเกม ‘Spot The Bad Beans’ กัน เมล็ดกาแฟดริปคอลเลกชันพิเศษของพันธุ์ไทย บ่มเพาะทุกเมล็ด ด้วยวิธีที่ ‘Organic’ ที่สุด ไร้สารตกค้าง แต่ทว่า... ในอัลบั้มนี้ มีกาแฟจากที่อื่นแอบมาด้วย! ดังนั้น เพื่อนคนไหนตาดี ตาไว ช่วยพี่ไทหาให้เจอ 10 คนแรก ที่สามารถคอมเมนต์บอกจำนวนเมล็ดเสียทั้งหมดได้ถูกต้อง รับไปเลยเสื้อยืด ‘พันธุ์ไทยรักษ์โลก’ มูลค่า 350 บาท จำนวนทั้งหมด 10 รางวัล รางวัลละ 1 ตัว เสื้อยืดสุด Exclusive นี้ไม่มีขาย ใครอยากได้มาร่วมสนุกกัน ร่วมสนุกง่ายๆ เพียงคอมเมนต์บอกว่าคุณเจอเมล็ดเสียจำนวนกี่เมล็ด *ร่วมสนุกได้ที่ คลิก ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 - 10 ธันวาคม 2566 *ตัดสินผลการร่วมสนุกตามกติกาวันที่ 11 ธันวาคม 2566 *ประกาศผลวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ทางหน้าเพจเฟสบุ๊ก PunThai Coffee โดยผู้ได้รับรางวัลจะต้องยืนยันสิทธิ์มาทางอินบ๊อกซ์ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2566   เงื่อนไขการร่วมกิจกรรม: *ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถร่วมสนุกได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่มีสิทธิ์รับรางวัลเพียง 1 รางวัลเท่านั้น *ผู้ได้รับรางวัลจะต้องยืนยันสิทธิ์โดยการส่ง ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรและที่อยู่ มาทางอินบ๊อกซ์เฟสบุ๊ก PunThai Coffee ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 (หากลบหรือแก้ไขโพสต์และคอมเมนต์ถือเป็นการสละสิทธิ์ทันที) หากไม่มีการยืนยันสิทธิ์ ภายในวันที่กำหนด ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และจะยกสิทธิ์ให้กับผู้มีสิทธิ์ท่านอื่น *บริษัทฯ ผู้จัดกิจกรรมและตัวแทนจะมีการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อวัตถุประสงค์ในการตัดสินรางวัล ยืนยันตัวตนและจัดส่งของรางวัลหากท่านเป็นผู้ชนะ *ผู้ร่วมกิจกรรมไม่สามารถเรียกร้องค่าตอบแทน, ค่าเสียหาย หรือสิ่งใดๆ จาก บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา *พนักงานของ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด และในเครือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเอเจนซี่ตัวแทนของกาแฟพันธุ์ไทย ที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมหรือผลิตสื่อการตลาดไม่มีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ *คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุดและขอสงวนสิทธิ์ในการตัดสิทธิ์ผู้ร่วมกิจกรรมที่ทำตามกติกาไม่ถูกต้อง โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า *ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินหรือโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติมเงื่อนไขในกติกาต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านต่อ
หรอยเบอร์แรงงงง แจกรางวัลก็แรงงงงงง!
หรอยเบอร์แรงงงง แจกรางวัลก็แรงงงงงง!เมนูหรอยแรงสุดว้าว เก็บอาการไม่ไหวอยากบอกให้เพื่อนชาวพันธ์ไทยรู้สั่ง 3 ม่วงเบาสงขลา เมนูไหนก็ได้ (ม่วงเบาปั่น ม่วงเบากาแฟ ม่วงเบาซ่า)แล้วมาเซลฟี่รีแอคหรอยแรงไปพร้อมกัน  กติกาการร่วมสนุก1.ซื้อเมนูมะม่วงเบาอะไรก็ได้ (ม่วงเบาปั่น, ม่วงเบากาแฟ, ม่วงเบาซ่า) ที่พันธุ์ไทยถ่ายรูปเซลฟี่รีแอค “หรอยเว๊อร์” โพสใต้คอมเมนต์นี้ พร้อมบรรยายว่าชอบเมนูนี้เพราะอะไรอย่าลืมติดแฮชแท็ก #หรอยแรงม่วงเบา #พันธุ์ไทย2. กด Like เพจ PunThai Coffee พร้อม Share โพสต์นี้แบบสาธารณะ3. โพสของใครถูกใจพี่ไทย์ พี่ไทย์สุ่มแจก “เสื้อหรอยแรงม่วงเบา” (จำนวน 10 รางวัล)หรือ “Gift Voucher 100 บาท” (จำนวน 10 รางวัล) ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ - 14 ก.ย. 66 ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 18 ก.ย. 66 *ผู้โชคดียืนยันตัวตนผ่าน Inbox ภายในวันที่ 21 ก.ย. 66*คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและของรางวัลโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านต่อ
แท็กแม่มาบอกรัก
ฉลองวันแม่ปีนี้ด้วยเมนูอร่อยที่พันธุ์ไทย!!แท็กแม่มาบอกรักด้วยประโยคเด็ดๆ ประโยคใครถูกใจพี่ไทมากที่สุด มีสิทธิ์รับ Gift Voucher มูลค่า 100 บาทไว้ใช้ซื้อขนมและเครื่องดื่มอร่อยๆ ได้ที่ร้านพันธุ์ไทยกติกา1. Tag แม่ของคุณในช่องคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้ พร้อมจัดหนึ่งประโยคบอกรักแม่ให้ชื่นใจ2. กด Like เพจ PunThai Coffee และโพสต์นี้ พร้อม Share โพสต์นี้แบบสาธารณะ3. ประโยคบอกรักแม่ของใครโดนใจพี่ไทที่สุด 10 คน มีสิทธิ์รับ Gift Voucher มูลค่า 100 บาทส่งตรงถึงบ้านร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. - 14 ส.ค. 66 ที่ https://web.facebook.com/photo.php?fbid=773867371205553&set=pb.100057468909442.-2207520000.&type=3ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 17 ส.ค. 66*คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และของรางวัลโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า#เวลาเป็นไทเวลาพันธุ์ไทย #พันธุ์ไทย
อ่านต่อ
อยากเปิดแฟรนไชส์ร้านกาแฟกับพันธุ์ไทย ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
อยากเปิดแฟรนไชส์ร้านกาแฟกับพันธุ์ไทย ต้องเริ่มต้นอย่างไร?   หลายคนอยากเป็นเจ้าของกิจการ ไม่อยากทำงานประจำไปจนเกษียณ แต่จะมีวิธีไหนบ้างนะ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้แบบก้าวกระโดด คำว่า “แฟรนไชส์” น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่จะเกษียณก่อนอายุ 60 ได้ วันนี้พันธุ์ไทยจะมาบอกต่อความความปัง หากคุณเปิดแฟรนไชส์ร้านกาแฟกับพันธุ์ไทยต้องทำอะไรบ้าง step by step และผลตอบแทนที่คุณจะได้รับแบบเกินคาด!     พันธ์ุไทยแฟรนไชส์   ก่อนจะเริ่มเรื่อง ขอเกริ่นก่อนว่าพันธุ์ไทยแฟรนไชส์น่าลงทุนอย่างไร ทำไมการลงทุนธุกิจแฟรนไชส์กับพันธุ์ไทยถึงคุ้มค่าที่จะลอง เพราะทุกวันนี้มีหลายแบรนด์มากที่เปิดให้ซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นแบบแฟรนไชส์แบบสแตนด์อโลนหรือเป็นตู้หยอดเหรียญ แต่บางแบรนด์ก็ต้องการผู้ที่มีพื้นฐานทางด้านธุรกิจมาบ้างแล้ว แต่พันธุ์ไทยแฟรนไชส์นอกจากจะลงทุนง่ายแสนง่ายแล้ว ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านเปิดแฟรนไชส์ร้านกาแฟหรือร้านขายของเลยก็สามารถลงทุนแฟรนไชส์กับเราได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอีก รู้แบบนี้แล้วจะลังเลอีกทำไม เริ่มเลย!   1.ลงทุนง่าย เติบโตไปกับพันธุ์ไทย คุ้มค่าการลงทุน   การเป็นแฟรนไชส์ของพันธุ์ไทยนั้น ไม่ต้องลงทุนสูงมาก แต่ยังได้รับสิทธิประโยชน์และการสนับสนุนอย่างครบวงจรจากบริษัทแม่ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับแบรนด์ชั้นนำอย่างพันธุ์ไทยได้   2. ไม่มีประสบการณ์ก็เปิดร้านได้   แม้ผู้สนใจจะไม่มีประสบการณ์ด้านกาแฟหรือร้านค้ามาก่อน แต่พันธุ์ไทยก็พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนในทุกด้าน ตั้งแต่การคัดเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบร้าน จนถึงการบริหารจัดการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดแฟรนไชส์และดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ   3. พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาในการดำเนินกิจการ   นอกจากการสนับสนุนด้านต่างๆ แล้ว พันธุ์ไทยยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและแนะนำในการดำเนินกิจการ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมเปิดร้าน จนถึงการบริหารจัดการทั้งด้านการตลาด การจัดการสินค้า และการบริการลูกค้า เพื่อให้แฟรนไชส์ประสบความสำเร็จ   4. ทราบผลการพิจารณาเร็ว   ขั้นตอนการสมัครเป็นแฟรนไชส์ของพันธุ์ไทยนั้น รวดเร็วและมีความชัดเจน เมื่อผู้สนใจยื่นเรื่องสมัครจะสามารถทราบผลการพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ตัดสินใจและเริ่มดำเนินธุรกิจได้ทันที     5 รูปแบบโมเดลพันธุ์ไทยแฟรนไชส์   พันธุ์ไทยมีหลากหลายรูปแบบโมเดลแฟรนไชส์ให้ผู้สนใจเลือกตามความพร้อมและความต้องการส่วนบุคคล ความหลากหลายของรูปแบบแฟรนไชส์น่าลงทุนนี้จะช่วยให้ผู้สนใจสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับเงินทุน พื้นที่ และรูปแบบที่ต้องการได้ ซึ่งจะช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจกาแฟกับพันธุ์ไทยเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จในอนาคต     1. Kiosk   - พื้นที่เริ่มต้น 9 ตารางเมตร - เงินลงทุนประมาณ 1.30 ล้านบาท - เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟ     2. Food Trailer   - พื้นที่เริ่มต้น 9 ตารางเมตร - เงินลงทุนประมาณ 1.58 ล้านบาท - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการธุรกิจแฟรนไชส์เคลื่อนที่ที่สามารถย้ายร้านกาแฟได้ แต่จำเป็นต้องใช้รถบรรทุกในการลากเพื่อไปขายตามสถานที่ต่างๆ     3. Food Truck   - พื้นที่เริ่มต้น 9 ตารางเมตร - เงินลงทุนประมาณ 1.68 ล้านบาท - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการธุรกิจแฟรนไชส์เคลื่อนที่เช่นเดียวกับ Food Trailer ต่างกันตรงที่เราไม่ต้องใช้รถบรรทุกในการลากเพื่อเคลื่อนที่ เพราะเราสามารถขับ Food Truck ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง     4. Build in   - พื้นที่เริ่มต้น 35 ตารางเมตร - เงินลงทุนประมาณ 2.03 ล้านบาท - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ขนาดกลาง ซึ่งเป็นรูปแบบตั้งอยู่ในอาคาร จึงสามารถรองรับลูกค้าได้มากชึ้น     5. Stand Alone   - พื้นที่เริ่มต้น 40 ตารางเมตร - เงินลงทุนประมาณ 2.50 ล้านบาท - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งรูปแบบสาขาที่ตั้งเป็นอิสระ รูปแบบนี้สามารถรองรับลูกค้าได้มากที่สุด     ขั้นตอนสู่ธุรกิจแฟรนไชส์กับพันธ์ุไทย     เป็นเจ้าของแฟรนไชส์กับพันธุ์ไทยได้ง่ายเพียง 4 ขั้นตอน   1. ส่งใบสมัครและผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ ระยะเวลาการในการดำเนินการ 30 วัน 2. เซ็นใบจองและชำระค่าจองสิทธิ์ ชำระภายใน 7 วันหลังจากได้รับสิทธิ์ 3. ออกแบบและก่อสร้างร้านออกแบบ: ใช้เวลาในการออกแบบประมาณ 14-30 วัน ก่อสร้างร้านใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน 4. อบรมหลักสูตรกาแฟพันธุ์ไทย: อบรมหลักสูตรทฤษฏีใช้เวลา 4 วัน, อบรมหลักสูตรปฏิบัติใช้เวลา 12 วัน   ข้อแนะนำเลือกทำเลเปิดร้านแฟรนไชส์   1. อยู่ใกล้แหล่งชุมชนและกลุ่มเป้าหมาย อยู่ใกล้ชุมชน, ออฟฟิศ-สำนักงาน, สถานที่ราชการ และใกล้กลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มพนักงานออฟฟิศ กลุ่มลูกค้าสัญจร   2. สามารถขายได้ทั้งวัน ขายได้ทั้งวัน (เช้า, กลางวัน, เย็น) หรืออย่างน้อย 2 ช่วงเวลา (เช้า, กลางวัน)   3.ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก สามารถมองเห็นได้ง่าย ร้านต้องไม่มีสิ่งกีดขวางบัง และห่างจากสาขาใกล้เคียงอย่างน้อย 2 กิโลเมตร (กรุงเทพ 2 กิโลเมตร, ต่างจังหวัด 5 กิโลเมตร)   4. มีพื้นที่จอดรถสำหรับลูกค้าและผู้ส่ง Delivery มีพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์สำหรับผู้ส่ง Delivery และอยู่ในพื้นที่ Delivery Service   คุณสมบัติผู้สมัครแฟรนไชส์   1. มีความพร้อมด้านการลงทุน 2. มีเวลาบริหารร้านและมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ 3. มีใจรักบริการและมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ 4. ต้องจดทะเบียนนิติบุคคล ที่จดทะเบียนในประเทศไทยเท่านั้น 5. ต้องเข้าอบรมในหลักสูตรที่กาแฟพันธุ์ไทยกำหนด และผ่านการทดสอบของธุรกิจพันธุ์ไทย 6. มีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด   หากซื้อแฟรนไชส์กับพันธุ์ไทย จะได้อะไรบ้าง?   1. สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้ากาแฟพันธุ์ไทย 2. สำรวจและประเมินทำเลพื้นที่เปิดร้าน 3. การออกแบบร้านสาขาและการตกแต่งร้านสาขา 4. อบรมการบริหารจัดการร้าน และพนักงาน 5. ทีมงานดูแลเปิดร้านสาขา 6. คู่มือการปฏิบัติงานและการบริหารจัดการร้าน 7. ส่งเสริมการขายและการตลาด 8. การคิดค้นสูตรเครื่องดื่มใหม่ 9. ทีมงานช่วยดูแลการจัดการร้าน พัฒนายอดขายตลอดอายุสัญญา 10. ระบบเครื่องบันทึกเก็บเงินสด (POS) และระบบสั่งซื้อสินค้า 11. การตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของสาขา 12. ร่วมกับธนาคารชั้นนำในการหาสินเชื่อสำหรับแฟรนไชส์   ถึงแม้การเปิดแฟรนไชส์ร้านกาแฟจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปล่อยปะละเลยแล้วสามารถประสบความสำเร็จได้ในทันที ผู้สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาให้รอบคอบถึงความเหมาะสมของตนเองต่อโมเดลแฟรนไชส์ต่างๆ รวมไปถึงสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานที่กำหนดโดยบริษัทฯอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้พันธุ์ไทยจะคอยดูแลพร้อมสนับสนุนในทุกย่างก้าว เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมๆ กัน อ่านบทความเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์พันธุ์ไทยเพิ่มเติมได้ที่บล็อกพันธุ์ไทย
อ่านต่อ
6 ข้อควรรู้และข้อระวัง หากคิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์
  6 ข้อควรรู้และข้อระวัง หากคิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์   หากคุณกำลังมองหาความสำเร็จที่ไม่ต้องกินเวลาชีวิต เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์ การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ เนื่องจากเป็นการลงทุนกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เราควรรู้ก่อนว่าธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร มีข้อควรระวังที่ควรศึกษาให้ดี ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ อีกทั้งยังทำให้ง่ายต่อการประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ลงทุนไปได้อย่างยั่งยืน พันธุ์ไทยได้รวบรวมข้อควรรู้ทั้งหมดก่อนการลงทุนแฟรนไชส์ไว้ให้แล้ว   ธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร   ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Business) คือระบบการทำธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า "ผู้ให้สิทธิ์ (Franchisor)" ได้ให้สิทธิ์แก่บุคคลอื่นหรือที่เรียกว่า "ผู้รับสิทธิ์ (Franchisee)" ในการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ของตน โดยมีการกำหนดรูปแบบการดำเนินงาน ระบบการบริหารจัดการ และมาตรฐานการให้บริการเป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมสิทธิ์ตามที่ตกลงกัน   ลักษณะสำคัญของธุรกิจแฟรนไชส์ ได้แก่   1. เป็นธุรกิจที่ผู้ให้สิทธิ์ให้อนุญาตและส่งมอบความช่วยเหลือทางธุรกิจ 2. ผู้รับสิทธิ์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานที่ผู้ให้สิทธิ์กำหนด 3. เป็นความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญาทางธุรกิจเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน 4. มีการใช้เครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า และระบบการดำเนินงานร่วมกัน   ตัวอย่างธุรกิจแฟรนไชส์น่าลงทุน เช่น ร้านอาหารจานด่วน สถานีบริการน้ำมัน ร้านกาแฟ ธุรกิจขนส่งพัสดุ โรงแรม เป็นต้น โดยระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจของผู้รับสิทธิ์   แต่ก่อนที่เราจะเริ่มคิดลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ หลายคนคงมีคำถามนี้ในหัวว่า จะซื้อแฟรนไชส์ต้องรู้อะไรบ้างนะ และหลายคนที่ไม่ได้ศึกษาก่อนการลงทุน เพราะคิดว่าแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นได้โดยใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ได้ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาในการลองผิดลองถูก เพราะมีเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์มาไกด์ให้แล้ว แต่คุณคิดผิด มี 6 ข้อควรรู้ก่อนจะหลวมตัวไปลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์     6 ข้อควรรู้และข้อระวังในลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์     1. ก่อนลงทุน เช็คไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน   ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่เราจะต้องลงทุนลงแรงกับมันไม่ใช่น้อย แตกต่างกับงานประจำที่เราเพียงทำตามความต้องการของเจ้านายและบริษัท ก่อนการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ เราจึงควรคำนึงถึงความชอบและเงื่อนไขส่วนตัว เช่น ชั่วโมงการทำงาน ต้องพิจารณาว่าธุรกิจนั้นต้องใช้เวลาทำงานมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตส่วนตัวมากเกินไป ความยืดหยุ่นของแฟรนไชส์ ดูว่าสามารถปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ ย้ายสถานที่ได้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่ รวมไปถึงลักษณะของธุรกิจ ว่าคุณชอบธุรกิจแบบใด และสอดคล้องกับค่านิยมและความชอบส่วนตัวของคุณหรือไม่ เพราะความชอบจะทำให้เราสามารถอยู่กับสิ่งนั้นได้นานขึ้น   2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแฟรนไชส์อย่างละเอียด   การทำความเข้าใจธุรกิจ ผลิตภัณฑ์หรือการบริการ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และกลยุทธ์การตลาดของแฟรนไชส์นั้นๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากจะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นมีความเหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด โดยมีรายละเอียดที่ควรพิจารณาดังนี้   - ทำความเข้าใจธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ อย่างลึกซึ้ง เช่น ประวัติความเป็นมา ปรัชญา วิสัยทัศน์ และรูปแบบการดำเนินงาน เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับแนวคิดและทิศทางที่คุณต้องการ - ศึกษาผลิตภัณฑ์หรือบริการของแฟรนไชส์นั้นๆ อย่างละเอียด ทั้งในแง่ของคุณภาพ ความแตกต่าง ของจุดเด่นและจุดด้อย รวมถึงกระบวนการผลิตหรือให้บริการ เพื่อเข้าใจสินค้าหรือบริการที่คุณจะต้องจำหน่ายหรือให้บริการ - วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแฟรนไชส์ ทั้งในแง่ของประชากรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และพฤติกรรมการบริโภค เพื่อประเมินว่ากลุ่มลูกค้าเหล่านี้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณสนใจหรือไม่ - ทำความเข้าใจกลยุทธ์การตลาดของแฟรนไชส์ ว่ามีการใช้กลยุทธ์ใดบ้างในการสร้างความแตกต่าง สร้างจุดขาย สื่อสารกับลูกค้า และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพื่อประเมินความเหมาะสมและโอกาสในการประสบความสำเร็จ - วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของผู้ให้แฟรนไชส์ เช่น วิเคราะห์จำนวนสาขาที่เปิดดำเนินการแล้ว และอัตราการเติบโตของสาขาต่างๆ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ รวมไปถึงศึกษาฐานะการเงินและผลประกอบการของบริษัทแฟรนไชส์ และประเมินความสามารถในการสนับสนุนผู้รับแฟรนไชส์ด้านการฝึกอบรม การตลาด และการบริหารจัดการ     3. คำนวณต้นทุนและกระแสเงินสดอย่างรอบคอบ   การคำนวณต้นทุนและกระแสเงินสดอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ เนื่องจากจะทำให้คุณสามารถประเมินความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ในการลงทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยจะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้   1. ประมาณการค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้น   - ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์: ค่าธรรมเนียมเริ่มแรกที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของแฟรนไชส์เพื่อได้รับสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจ - ค่าก่อสร้าง/ตกแต่งสถานที่: รวมถึงค่าเช่า ค่าปรับปรุง ค่าตกแต่งร้านตามแบบมาตรฐานของแฟรนไชส์ - ค่าอุปกรณ์และระบบต่างๆ: เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบบัญชี เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จำเป็น - เงินทุนหมุนเวียนเริ่มต้น: เงินสดสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก่อนที่ธุรกิจจะสร้างรายได้   2. คำนวณรายรับและรายจ่ายที่คาดหวัง   - ประมาณการยอดขายโดยอ้างอิงจากสถิติและข้อมูลของแฟรนไชส์ - คำนวณรายได้โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาขาย ส่วนลดและโปรโมชัน - ประมาณการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เช่น ค่าแรงงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่า ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ - คำนวณค่าใช้จ่ายคงที่และผันแปร เพื่อประเมินจุดคุ้มทุน   3. ประเมินระยะเวลาคืนทุนและผลตอบแทนการลงทุนแฟรนไชส์   - ใช้ข้อมูลต้นทุนการลงทุนเริ่มแรกและประมาณการกระแสเงินสดเพื่อคำนวณระยะเวลาคืนทุน - คำนวณมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) เพื่อประเมินความคุ้มค่า     4. เลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม   การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมจะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่าย อยู่ในบริเวณที่มีศักยภาพทางธุรกิจสูง และสามารถดำเนินงานได้อย่างสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว โดยมีสิ่งที่ควรพิจารณา ดังนี้   1. พิจารณาปัจจัยด้านกำลังซื้อ คู่แข่ง การคมนาคม และแหล่งชุมชนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย   - กำลังซื้อ: วิเคราะห์รายได้เฉลี่ย อำนาจซื้อ และพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชากรในบริเวณนั้นๆ เพื่อประเมินศักยภาพด้านรายได้ - คู่แข่ง: สำรวจและวิเคราะห์คู่แข่งรายอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่รุนแรงจนเกินไป - การคมนาคม: พิจารณาความสะดวกในการเดินทางของลูกค้าและการขนส่งสินค้า เช่น ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้า จุดจอดรถสะดวกสบาย - แหล่งชุมชน: เลือกบริเวณที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น   2. ศึกษากฎระเบียบและข้อบังคับของท้องถิ่นเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจนั้นๆ   - ข้อบังคับด้านการใช้ที่ดินและการก่อสร้าง: สอบถามข้อกำหนดต่างๆ เช่น ประเภทธุรกิจที่อนุญาตให้ดำเนินการในบริเวณนั้น ข้อจำกัดด้านขนาดอาคารและการก่อสร้าง - ข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย: ศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการมลพิษ ขยะ ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ - ข้อบังคับด้านสาธารณูปการและสาธารณูปโภค: สอบถามรายละเอียดการเชื่อมต่อสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา อินเทอร์เน็ต - ข้อบังคับด้านภาษีและค่าธรรมเนียม: ทำความเข้าใจภาษีธุรกิจต่างๆ ที่จะต้องเสีย เช่น ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน เป็นต้น   5. เตรียมบุคลากรที่มีความพร้อมและศักยภาพ   การเตรียมบุคลากรที่มีความพร้อมและศักยภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ เนื่องจากบุคลากรเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมาย เราจึงควรให้ความสำคัญและเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ   1. มีแผนการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ชัดเจน   - จัดทำแผนกำลังคนและโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม เพื่อกำหนดตำแหน่งงานและจำนวนบุคลากรที่ต้องการ - วางแผนการสรรหา คัดเลือก และว่าจ้างบุคลากรที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ - กำหนดนโยบายค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิ่งจูงใจต่างๆ เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ - สร้างระบบการประเมินผลงานและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง   2. จัดหาและฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็น   - สรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ธุรกิจต้องการ เช่น ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์/บริการ มนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทักษะการบริการ เป็นต้น - จัดให้มีการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่พนักงานก่อนเปิดดำเนินการ เช่น ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การปฏิบัติงาน กระบวนการทำงาน นโยบายและระเบียบของแฟรนไชส์ - มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการอบรมภายในและภายนอก - สร้างความผูกพันและแรงจูงใจให้แก่พนักงาน เพื่อรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้กับองค์กร     6. มีแผนการตลาดและการบริหารจัดการที่ดี   การมีแผนการตลาดที่ดีจะช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจ ขณะที่ระบบบริหารจัดการและการเงินที่มีประสิทธิภาพจะควบคุมต้นทุน บริหารความเสี่ยง และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ในระยะยาว   1. วางแผนการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของแฟรนไชส์   - ศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารแบรนด์ของแฟรนไชส์อย่างลึกซึ้ง - วางแผนการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายในระดับท้องถิ่น/พื้นที่ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์โดยรวม - ออกแบบและดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้นยอดขาย - ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงแผนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น   2. จัดระบบการบริหารจัดการ บัญชี และการเงินที่มีประสิทธิภาพ   - วางระบบการบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการปฏิบัติงาน การจัดการคุณภาพ และบริการลูกค้า - จัดตั้งระบบบัญชีและการเงินที่ถูกต้องตามหลักบัญชีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง - กำหนดระบบควบคุมภายในเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินและการทุจริต - ติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ - วางแผนกระแสเงินสดและการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอกับการดำเนินธุรกิจ   มาถึงตรงนี้แล้ว ใครยังอยากลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ก็จัดได้เลย เมื่อเรามีความรู้ครบถ้วนแล้ว การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ก็เหมือนแค่การเดินเรือ ที่พอรู้ทิศทางแล้ว การเดินเรือไปยังฝั่งฝันอาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่เราจะสามารถเดินเรือไปได้ถึงฝั่งอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ กับพันธุ์ไทย เราเปิดโอกาสการขยายธุรกิจหลากหลายโมเดลแฟรนไชส์ให้เลือกได้ตามความชอบและความสนใจ ลงทะเบียนง่ายไม่ยุ่งยากมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน อีกทั้งยังมีทีมงานช่วยดูแลจัดการอีกด้วย ดีแบบนี้ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกาแฟพันธุ์ไทยให้เติบโตก้าวไกลไปทั่วโลก   อ้างอิง: - 5 ข้อต้องรู้ก่อนลงทุน "ธุรกิจแฟรนไชส์" ลงทุนถูกทางสร้างกำไรยั่งยืน - 5 ข้อควรรู้ หากคิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ - 10 Key Points To Consider When Purchasing A Franchise By Punthai.
อ่านต่อ