6 ข้อควรรู้และข้อระวัง หากคิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์
24 เม.ย. 67

 

6 ข้อควรรู้และข้อระวัง หากคิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์

 

หากคุณกำลังมองหาความสำเร็จที่ไม่ต้องกินเวลาชีวิต เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์ การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ เนื่องจากเป็นการลงทุนกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เราควรรู้ก่อนว่าธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร มีข้อควรระวังที่ควรศึกษาให้ดี ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ อีกทั้งยังทำให้ง่ายต่อการประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ลงทุนไปได้อย่างยั่งยืน พันธุ์ไทยได้รวบรวมข้อควรรู้ทั้งหมดก่อนการลงทุนแฟรนไชส์ไว้ให้แล้ว

 

ธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร

 

ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Business) คือระบบการทำธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า "ผู้ให้สิทธิ์ (Franchisor)" ได้ให้สิทธิ์แก่บุคคลอื่นหรือที่เรียกว่า "ผู้รับสิทธิ์ (Franchisee)" ในการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ของตน โดยมีการกำหนดรูปแบบการดำเนินงาน ระบบการบริหารจัดการ และมาตรฐานการให้บริการเป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมสิทธิ์ตามที่ตกลงกัน

 

ลักษณะสำคัญของธุรกิจแฟรนไชส์ ได้แก่

 

1. เป็นธุรกิจที่ผู้ให้สิทธิ์ให้อนุญาตและส่งมอบความช่วยเหลือทางธุรกิจ

2. ผู้รับสิทธิ์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานที่ผู้ให้สิทธิ์กำหนด

3. เป็นความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญาทางธุรกิจเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

4. มีการใช้เครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า และระบบการดำเนินงานร่วมกัน

 

ตัวอย่างธุรกิจแฟรนไชส์น่าลงทุน เช่น ร้านอาหารจานด่วน สถานีบริการน้ำมัน ร้านกาแฟ ธุรกิจขนส่งพัสดุ โรงแรม เป็นต้น โดยระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจของผู้รับสิทธิ์

 

แต่ก่อนที่เราจะเริ่มคิดลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ หลายคนคงมีคำถามนี้ในหัวว่า จะซื้อแฟรนไชส์ต้องรู้อะไรบ้างนะ และหลายคนที่ไม่ได้ศึกษาก่อนการลงทุน เพราะคิดว่าแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นได้โดยใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ได้ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาในการลองผิดลองถูก เพราะมีเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์มาไกด์ให้แล้ว แต่คุณคิดผิด มี 6 ข้อควรรู้ก่อนจะหลวมตัวไปลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์

 

 

6 ข้อควรรู้และข้อระวังในลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์

 

ผู้หญิงอยู่หน้าร้านกาแฟแฟรนไชส์

 

1. ก่อนลงทุน เช็คไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน

 

ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่เราจะต้องลงทุนลงแรงกับมันไม่ใช่น้อย แตกต่างกับงานประจำที่เราเพียงทำตามความต้องการของเจ้านายและบริษัท ก่อนการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ เราจึงควรคำนึงถึงความชอบและเงื่อนไขส่วนตัว เช่น ชั่วโมงการทำงาน ต้องพิจารณาว่าธุรกิจนั้นต้องใช้เวลาทำงานมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตส่วนตัวมากเกินไป ความยืดหยุ่นของแฟรนไชส์ ดูว่าสามารถปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ ย้ายสถานที่ได้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่ รวมไปถึงลักษณะของธุรกิจ ว่าคุณชอบธุรกิจแบบใด และสอดคล้องกับค่านิยมและความชอบส่วนตัวของคุณหรือไม่ เพราะความชอบจะทำให้เราสามารถอยู่กับสิ่งนั้นได้นานขึ้น

 

2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแฟรนไชส์อย่างละเอียด

 

การทำความเข้าใจธุรกิจ ผลิตภัณฑ์หรือการบริการ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และกลยุทธ์การตลาดของแฟรนไชส์นั้นๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากจะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นมีความเหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด โดยมีรายละเอียดที่ควรพิจารณาดังนี้

 

- ทำความเข้าใจธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ อย่างลึกซึ้ง เช่น ประวัติความเป็นมา ปรัชญา วิสัยทัศน์ และรูปแบบการดำเนินงาน เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับแนวคิดและทิศทางที่คุณต้องการ

- ศึกษาผลิตภัณฑ์หรือบริการของแฟรนไชส์นั้นๆ อย่างละเอียด ทั้งในแง่ของคุณภาพ ความแตกต่าง ของจุดเด่นและจุดด้อย รวมถึงกระบวนการผลิตหรือให้บริการ เพื่อเข้าใจสินค้าหรือบริการที่คุณจะต้องจำหน่ายหรือให้บริการ

- วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแฟรนไชส์ ทั้งในแง่ของประชากรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และพฤติกรรมการบริโภค เพื่อประเมินว่ากลุ่มลูกค้าเหล่านี้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณสนใจหรือไม่

- ทำความเข้าใจกลยุทธ์การตลาดของแฟรนไชส์ ว่ามีการใช้กลยุทธ์ใดบ้างในการสร้างความแตกต่าง สร้างจุดขาย สื่อสารกับลูกค้า และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพื่อประเมินความเหมาะสมและโอกาสในการประสบความสำเร็จ

- วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของผู้ให้แฟรนไชส์ เช่น วิเคราะห์จำนวนสาขาที่เปิดดำเนินการแล้ว และอัตราการเติบโตของสาขาต่างๆ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ รวมไปถึงศึกษาฐานะการเงินและผลประกอบการของบริษัทแฟรนไชส์ และประเมินความสามารถในการสนับสนุนผู้รับแฟรนไชส์ด้านการฝึกอบรม การตลาด และการบริหารจัดการ

 

เงินที่ได้จากการลงทุนแฟรนไชส์

 

3. คำนวณต้นทุนและกระแสเงินสดอย่างรอบคอบ

 

การคำนวณต้นทุนและกระแสเงินสดอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ เนื่องจากจะทำให้คุณสามารถประเมินความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ในการลงทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยจะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

 

1. ประมาณการค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้น

 

- ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์: ค่าธรรมเนียมเริ่มแรกที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของแฟรนไชส์เพื่อได้รับสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจ

- ค่าก่อสร้าง/ตกแต่งสถานที่: รวมถึงค่าเช่า ค่าปรับปรุง ค่าตกแต่งร้านตามแบบมาตรฐานของแฟรนไชส์

- ค่าอุปกรณ์และระบบต่างๆ: เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบบัญชี เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จำเป็น

- เงินทุนหมุนเวียนเริ่มต้น: เงินสดสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก่อนที่ธุรกิจจะสร้างรายได้

 

2. คำนวณรายรับและรายจ่ายที่คาดหวัง

 

- ประมาณการยอดขายโดยอ้างอิงจากสถิติและข้อมูลของแฟรนไชส์

- คำนวณรายได้โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาขาย ส่วนลดและโปรโมชัน

- ประมาณการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เช่น ค่าแรงงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่า ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ

- คำนวณค่าใช้จ่ายคงที่และผันแปร เพื่อประเมินจุดคุ้มทุน

 

3. ประเมินระยะเวลาคืนทุนและผลตอบแทนการลงทุนแฟรนไชส์

 

- ใช้ข้อมูลต้นทุนการลงทุนเริ่มแรกและประมาณการกระแสเงินสดเพื่อคำนวณระยะเวลาคืนทุน

- คำนวณมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) เพื่อประเมินความคุ้มค่า

 

ผู้หญิงกำลังเปิดร้านแฟรนไชส์

 

4. เลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม

 

การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมจะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่าย อยู่ในบริเวณที่มีศักยภาพทางธุรกิจสูง และสามารถดำเนินงานได้อย่างสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว โดยมีสิ่งที่ควรพิจารณา ดังนี้

 

1. พิจารณาปัจจัยด้านกำลังซื้อ คู่แข่ง การคมนาคม และแหล่งชุมชนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

 

- กำลังซื้อ: วิเคราะห์รายได้เฉลี่ย อำนาจซื้อ และพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชากรในบริเวณนั้นๆ เพื่อประเมินศักยภาพด้านรายได้

- คู่แข่ง: สำรวจและวิเคราะห์คู่แข่งรายอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่รุนแรงจนเกินไป

- การคมนาคม: พิจารณาความสะดวกในการเดินทางของลูกค้าและการขนส่งสินค้า เช่น ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้า จุดจอดรถสะดวกสบาย

- แหล่งชุมชน: เลือกบริเวณที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

 

2. ศึกษากฎระเบียบและข้อบังคับของท้องถิ่นเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจนั้นๆ

 

- ข้อบังคับด้านการใช้ที่ดินและการก่อสร้าง: สอบถามข้อกำหนดต่างๆ เช่น ประเภทธุรกิจที่อนุญาตให้ดำเนินการในบริเวณนั้น ข้อจำกัดด้านขนาดอาคารและการก่อสร้าง

- ข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย: ศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการมลพิษ ขยะ ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ

- ข้อบังคับด้านสาธารณูปการและสาธารณูปโภค: สอบถามรายละเอียดการเชื่อมต่อสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา อินเทอร์เน็ต

- ข้อบังคับด้านภาษีและค่าธรรมเนียม: ทำความเข้าใจภาษีธุรกิจต่างๆ ที่จะต้องเสีย เช่น ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน เป็นต้น

 

5. เตรียมบุคลากรที่มีความพร้อมและศักยภาพ

 

การเตรียมบุคลากรที่มีความพร้อมและศักยภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ เนื่องจากบุคลากรเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมาย เราจึงควรให้ความสำคัญและเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ

 

1. มีแผนการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ชัดเจน

 

- จัดทำแผนกำลังคนและโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม เพื่อกำหนดตำแหน่งงานและจำนวนบุคลากรที่ต้องการ

- วางแผนการสรรหา คัดเลือก และว่าจ้างบุคลากรที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ

- กำหนดนโยบายค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิ่งจูงใจต่างๆ เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ

- สร้างระบบการประเมินผลงานและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

 

2. จัดหาและฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็น

 

- สรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ธุรกิจต้องการ เช่น ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์/บริการ มนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทักษะการบริการ เป็นต้น

- จัดให้มีการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่พนักงานก่อนเปิดดำเนินการ เช่น ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การปฏิบัติงาน กระบวนการทำงาน นโยบายและระเบียบของแฟรนไชส์

- มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการอบรมภายในและภายนอก

- สร้างความผูกพันและแรงจูงใจให้แก่พนักงาน เพื่อรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้กับองค์กร

 

เซ็นสัญญา

 

6. มีแผนการตลาดและการบริหารจัดการที่ดี

 

การมีแผนการตลาดที่ดีจะช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจ ขณะที่ระบบบริหารจัดการและการเงินที่มีประสิทธิภาพจะควบคุมต้นทุน บริหารความเสี่ยง และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ในระยะยาว

 

1. วางแผนการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของแฟรนไชส์

 

- ศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารแบรนด์ของแฟรนไชส์อย่างลึกซึ้ง

- วางแผนการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายในระดับท้องถิ่น/พื้นที่ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์โดยรวม

- ออกแบบและดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้นยอดขาย

- ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงแผนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

2. จัดระบบการบริหารจัดการ บัญชี และการเงินที่มีประสิทธิภาพ

 

- วางระบบการบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการปฏิบัติงาน การจัดการคุณภาพ และบริการลูกค้า

- จัดตั้งระบบบัญชีและการเงินที่ถูกต้องตามหลักบัญชีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

- กำหนดระบบควบคุมภายในเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินและการทุจริต

- ติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ

- วางแผนกระแสเงินสดและการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอกับการดำเนินธุรกิจ

 

มาถึงตรงนี้แล้ว ใครยังอยากลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ก็จัดได้เลย เมื่อเรามีความรู้ครบถ้วนแล้ว การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ก็เหมือนแค่การเดินเรือ ที่พอรู้ทิศทางแล้ว การเดินเรือไปยังฝั่งฝันอาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่เราจะสามารถเดินเรือไปได้ถึงฝั่งอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ กับพันธุ์ไทย เราเปิดโอกาสการขยายธุรกิจหลากหลายโมเดลแฟรนไชส์ให้เลือกได้ตามความชอบและความสนใจ ลงทะเบียนง่ายไม่ยุ่งยากมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน อีกทั้งยังมีทีมงานช่วยดูแลจัดการอีกด้วย ดีแบบนี้ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกาแฟพันธุ์ไทยให้เติบโตก้าวไกลไปทั่วโลก

 

อ้างอิง:

- 5 ข้อต้องรู้ก่อนลงทุน "ธุรกิจแฟรนไชส์" ลงทุนถูกทางสร้างกำไรยั่งยืน

- 5 ข้อควรรู้ หากคิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์

- 10 Key Points To Consider When Purchasing A Franchise

By Punthai.